ปรับแผนดูแลผู้ป่วย COVID-19 แบ่ง 4 กลุ่ม รักษาตามอาการ

ผอ.สถาบันเวชศาสตร์ฯ ผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ เปิดแนวทางดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่ปรับปรุงให้ชัดเจนขึ้นแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 4 กลุ่ม ย้ำ หากตรวจพบเชื้อต้องดูอาการที่ รพ. อย่างน้อย 2-7 วัน หากรักษาหายกลับบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยและแยกตัวเองอีก 1 เดือน

วันนี้ (31 มี.ค.2563) นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันเวชศาสตร์ฯผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ ได้แถลงถึงการปรับปรุงแนวทางการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ในไทย โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 4 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ซึ่งมีจำนวนร้อยละ 20 ของผู้พบเชื้อ โดยจะให้สังเกตอาการในโรงพยาบาล 2-7 วัน แล้วสังเกตอาการต่อในหอผู้ป่วยเฉพาะ หรือโรงพยาบาลเฉพาะกิจ จนครบ 14 วัน นับแต่วันตรวจพบเชื้อ และเมื่อหายและกลับบ้านแล้วให้สวมหน้ากากอนามัยและแยกตัวเองเมื่อกลับบ้านจนครบ 1 เดือน

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรงคล้ายไข้หวัด ซึ่งมีภาพถ่ายรังสีปอดปกติ มีจำนวนร้อยละ 65 ของผู้พบเชื้อ แบ่งเป็นกลุ่ม 2 กลุ่ม คือ

ไม่มีปัจจัยเสี่ยง จะรักษาตามอาการ หรือพิจารณาให้ยาไวรัสในโรงพยาบาล 2-7 วัน
มีปัจจัยเสี่ยง ให้ยารักษาไวรัสในโรงพยาบาลและติดตามภาพถ่ายรังสีปอด ทั้ง 2 กลุ่ม หากภาพถ่ายรังสีปอดเป็นปกติ ให้สังเกตอาการต่อในหอพักผู้ป่วยเฉพาะ หรือโรงพยาบาลเฉพาะกิจ จนครบอย่างน้อย 14 วัน นับจากมีอาการ และเมื่อหายและกลับบ้านแล้วให้สวมหน้ากากอนามัยและแยกตัวเองเมื่อกลับบ้านจนครบ 1 เดือน

ขณะที่ กลุ่มที่ 3 คือ ผู้ป่วยปอดอักเสบไม่รุนแรง มีจำนวนร้อยละ 12 ของผู้พบเชื้อ ต้องรักษาโดยการให้ยารักษาไวรัสในโรงพยาบาล และ กลุ่มที่ 4 ผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรง ร้อยละ 3 ของผู้ติดเชื้อ รักษาโดยการให้ยารักษาไวรัสใน ICU โดยผู้ป่วยทั้งที่ปอดอักเสบไม่รุนแรงและรุนแรง ต้องมีการพิจารณาร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ด้วย เช่น อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว และมีภาวะอื่นๆ เช่น ภาวะอ้วน หรือ ภูมิคุ้มกันต่ำ

19 จังหวัดปลอดเชื้อ COVID-19

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย พบว่ามีจังหวัดปลอดผู้ป่วย COVID-19 รวม 19 จังหวัด โดยมี 4 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยรักษาหายหมดแล้ว ได้แก่ เพชรบูรณ์ ยโสธร ลพบุรี สุโขทัย ซึ่งเน้นมาตรการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง และในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 7-14 วันก่อนหน้านี้

ส่วนอีก 15 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท นครนายก น่าน พิจิตร ลำปาง สกลนคร บึงกาฟั สมุทรสงคราม อ่างทอง ตราด สิงห์บุรี ระนอง พังงา สตูล

จังหวัดเหล่านี้มีทั้งไม่เคยพบผู้ป่วยเลย และมีแต่หายหมดแล้ว ขณะที่มีรายงานว่า โรงพยาบาลจะนะ ได้รักษาผู้ป่วย 6 คนหายหมดแล้ว ทำให้ อ.จะนะ จ.สงขลา ไม่มีผู้ป่วย COVID-19 แล้ว

ขณะที่ ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ยังถือว่าน่ากังวลพบว่ามีผู้ป่วยกระจาย 61 จังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว โดยพื้นที่กทม.ยังเป็นตัวเลขที่มีผู้ป่วยสูงสุด 869 คน จ.นนทบุรี 79 ภูเก็ต 56 คน เช่นเดียวกับตัวเลขพบผู้ป่วยจังหวัดรายใหม่ ที่ กรมควบคุมโรคได้นำข้อมูลมาให้เห็นแล้วยังกระจุกตัวที่กทม. และนนทบุรี จึงขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาระยะห่างทางสังคมและอยู่บ้าน เลี่ยงไปในพื้นที่แออัดเพื่อลดการแพร่เชื้อ