"สุวรรณภูมิ" ยกระดับคัดกรองผู้โดยสาร 4 ประเทศเสี่ยง COVID-19

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ออกข้อกำหนดให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางมาจาก 4 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องมีใบรับรองแพทย์ ผลตรวจเลือด ประกันสุขภาพ ก่อนเดินทางเข้าไทยมีผลวันนี้ ขณะที่เที่ยวบินจากเกาหลีใต้เมื่อวานพบมีผู้โดยสารมีไข้ 2 คน อยู่ระหว่างยืนยันผลว่าติดเชื้อหรือไม่

วันนี้ (10 มี.ค.2563) นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการอากาศยานสุวรรณภูมิ รายงานถึงสถานการณ์การคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ที่มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประจำวันที่ 9 มี.ค. มีเที่ยวบิน 747 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศ 513 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศ 234 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกรวม 85,588 คน

โดยด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ คัดกรองผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 26,936 คน มีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีวีซ่าเดินทางหมดอายุ มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จำนวน 2 คน ได้ส่งต่อไปรักษาตัวเพื่อคัดกรองโรคที่โรงพยาบาลแล้ว และเมื่อวานนี้มีเที่ยวบินจากประเทศเกาหลีใต้เข้าไทยจำนวน 5 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 745 คน คนไทยจำนวน 233 คน

ส่วนการตรวจคัดกรองคนไทยที่มาจากเกาหลีใต้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง คือ บุคคลที่อยู่ในเกาหลีใต้ผิดกฎหมายกับความเสี่ยงต่ำ คือคนที่อยู่อย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากการแบ่งประเภทดังกล่าว ทางไทยเห็นว่ากลุ่มคนที่อยู่อย่างผิดกฎหมายอาจจะมีการเข้าถึงระบบสาธารณสุขน้อยกว่า และจะมีโอกาสสูงในการติดเชื้อมากกว่า

ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ออกข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศ สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 4 ประเทศ คือ จีน (รวมมาเก๊า และฮ่องกง) เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ผู้โดยสารทุกคนจะต้องมีใบรับรองแพทย์และการกักตัวในประเทศต้นทางก่อน 14 วัน ผลตรวจเลือดว่าไม่มีเชื้อไวรัส COVID-19 ก่อนเดินทาง 2 วัน ประกันสุขภาพทุนประกันไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ และห้ามมีไข้ก่อนเช็กอิน โดยข้อกำหนดดังกล่าวมีผลตั้งแต่ เวลา 08.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย และหลังจากนี้ประเทศในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ และมีสิทธิปฏิเสธรับผู้โดยสารได้

ขณะที่ นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้โดยสารคนไทยที่จะเข้ามาในไทยหากผ่านการตรวจคัดกรองมาแล้วก็จะต้องถูกกักตัวอีก 14 วัน ตามสถานที่รัฐได้จัดไว้ให้ ส่วนนักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในที่พักหรือโรงแรมตามที่ได้แจ้งที่อยู่ไว้ที่ด่านตรวจอย่างเคร่งครัด โดยเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ได้ส่งผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยกลุ่มเสี่ยงสูงเดินทางมาจากเกาหลีใต้ได้ส่งไปกักตัวแล้ว 136 คน ที่ อ.สัตหีบ ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำถูกส่งไปกักตัวในพื้นที่อื่นๆ ใกล้ภูมิลำเนาจำนวน 91 คน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกประเทศน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปที่เดินทางอยู่ ซึ่งผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. จะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 210,000 คนต่อวัน แต่ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผู้โดยสารเหลือเพียง 85,000 คน และคาดว่าหากมีประกาศข้อบังคับดังกล่าวจะมีจำนวนผู้โดยสารลดลงกว่าเดิมอีก