วันนี้ (9 มี.ค.2563) นายเดชาวัต แจ้งชื่น ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและการตลาดแบบตรง สคบ. ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากมีความต้องการใช้หน้ากากนามัยเพื่อนำมาป้องกันตนเอง ส่งผลให้มีผู้ประกอบการบางรายมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านออนไลน์เกินราคาที่กฎหมายกำหนด และบางกรณีมีการหลอกขายสินค้าแต่ไม่มีการส่งสินค้า
สำหรับที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาเข้ามาผ่านทาง สคบ.โดย สคบ.ได้ประสานไปกรมการค้าภายในเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้ประสานไปยังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันขายสินค้าออนไลน์อย่าง SHOPEE และ LAZADA เพื่อให้ตรวจสอบราคาสินค้าเพื่อไม่ให้มีการขายหน้ากากอนามัยเกินราคา
สำหรับแพลตฟอร์มของ SHOPEE ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการปลดคู่ค้าที่โพสต์ขายหน้ากากอนามัยเกินราคาที่กฎหมายกำหนดไปแล้วกว่า 20,000 ราย พร้อมเก็บข้อมูลทั้งประวัติการขายสินค้าและประวัติของผู้ค้าเพื่อให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่หากมีการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีต่อไป เช่นเดียวกันกับกรณีขายหน้ากากอนามัยราคา 2 บาท แต่คิดค่าส่ง 700 บาท SHOPEE ก็ได้มีการปลดคู่ค้าที่โพสต์ขายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นโพสต์ขายหน้ากากอนามัยเกินราคาบนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ หรือสั่งหน้ากากอนามัยแต่ไม่ได้รับสินค้า สามารถร้องเรียนมาที่เฟซบุ๊ก สคบ. กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ. หรือโทรสายด่วน 1166 ได้ โดย สคบ.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป หรือโทรสายด่วยกรมการค้าภายใน 1569