วันนี้ (9 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ในอิตาลียังวิกฤต ทำให้ทางการต้องปิดเมืองในพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบกับประชาชน 16 ล้านคนในแคว้นลอมบาร์ดี และอีก 14 จังหวัด รวมทั้งเมืองมิลาน ศูนย์กลางการเงิน ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากเมืองร้าง ชาวเมืองเก็บตัวอยู่ในบ้าน ขณะที่บางส่วนพากันเดินทางออกจากพื้นที่ก่อนหน้ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 3 เม.ย.นี้ และหลังจากมาตรการมีผลบังคับใช้ ประชาชนที่จะเดินทางในพื้นที่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ยังประกาศปิดโรงเรียน ยิม พิพิธภัณฑ์ และไนท์คลับทั่วประเทศ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะควบคุมการระบาด ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อในอิตาลียังพุ่งสูง โดยเมื่อวานนี้ (8 มี.ค) ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่พุ่งขึ้นไปถึง 133 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 366 คน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 5,883 คน เป็น 7,375 คน แซงหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ที่ขณะนี้มี 7,313 คน ทำให้อิตาลีกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดนอกจีน
ขณะที่เรือนจำทั่วประเทศอิตาลีเกิดความวุ่น บางแห่งมีนักโทษก่อจลาจลจากความไม่พอใจที่เรือนจำระงับการให้ญาติเข้าเยี่ยมชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัส COVID-19
ส่วนที่ "อิหร่าน" ก็เป็นอีกประเทศที่สถานการณ์การระบาดยังวิกฤต โดยเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 49 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 194 คน หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 วันในช่วงเวลาเพียงวันเดียว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 6,566 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันเดียว อิตาลีป่วย COVID-19 เพิ่ม 1,145 คน ทั่วโลกทะลุ 1 แสนคน
"อิตาลี" ปิดโรงเรียน-มหาวิทยาลัยถึงกลางเดือน มี.ค.
สหรัฐฯ พบเจ้าหน้าที่สนามบิน 2 คน ติดเชื้อ COVID-19