แกะรอยหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี

14 วันของเหตุการณ์ชิงทองใน จ.ลพบุรี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องระดมเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา เข้าคลี่คลายคดี หาหลักฐาน วิเคราะห์รูปร่าง การเคลื่อนไหว และสืบค้นข้อมูลปืน จนนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ

วันนี้ (22 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแกะรอยหาผู้ก่อเหตุชิงทองใน จ.ลพบุรี หลักฐานชิ้นแรกที่ตำรวจนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียดคือ ภาพวงจรปิด ซึ่งสามารถตรวจสอบลักษณะทางภายภาพได้ในเบื้องต้น ทั้งรูปร่าง การแต่งตัว อุปกรณ์ที่ใช้ปกปิด ยี่ห้อรองเท้าและเครื่องแต่งกายที่อาจต่างไปจากคดีอาชญากรรมทั่วไป เป็นอีกจุดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและตำรวจใช้แกะรอย ท่าทางการเคลื่อนไหวไม่ปกติจากลักษณะการยืนหรือการเดิน สอดคล้องกับผู้ต้องหาที่เคยเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่าขวา เมื่อปี 2560

ส่วนอาวุธปืน ขนาด 9 มิลลิเมตร รุ่นซีแซท เอสพี 75-01 เป็นอีกหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้แกะรอย เพราะเป็นปืนที่ใช้ในหน่วยงานราชการ มีเฉพาะกลุ่มและราคาแพง ตำรวจชุดสืบสวนขอข้อมูลบุคคลที่ครอบครองปืนรุ่นนี้ จนพบว่าอดีตนายตำรวจคนหนึ่งมีในครอบครอง นำไปสู่การเข้าตรวจสอบและพบว่านายประสิทธิชัย เขาแก้ว เป็นผู้ใช้งาน

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า กระบวนการทำงานยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ และทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ ก่อนที่จะเปิดเผยกับสื่อมวลชน

ทุกเรื่องเราจะเป็นนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นึกเอาเอง เราจะคิด จะบอกกับสื่อมวลชนหรือทุกคน ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ ไม่ใช่ไปนึกเอาเอง

ขณะที่เส้นทางหลบหนี เป็นอีกหนึ่งเบาะแสที่ตำรวจใช้แกะรอยจากหลักฐานภาพวงจรปิด หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน สีขาวคาดแดง ขี่ย้อนศรออกไปทางถนนสายเลี่ยงเมืองลพบุรี ผ่านหน้าวัดดงน้อย แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยโรงแรม 111 เก่า มุ่งหน้าแยกบ้านใหม่ขุนนวล

หลังจากนั้นเลี้ยวขวาผ่านชุมชน ต.ท่าศาลา เข้าสู่ถนนพหลโยธิน แล้วกลับรถที่หน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 1 เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนจอมพล ป เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าถนนเอราวัณ ขี่ต่อประมาณ 800 เมตร เลี้ยวขวาจะพบหมู่บ้านลพบุรีวิว ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา รวมระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร

ตำรวจเสนอ 7 ข้อหาขอศาลออกหมายจับ

สำหรับข้อหาที่ตำรวจเสนอศาลออกหมายจับ มี 7 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ, ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์, พยายามฆ่าผู้อื่นหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธติดตัว, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง