เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.2562) นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ นักวิชาการอิสระ จ.นครราชสีมา แสดงความคิดเห็นต่องบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท แต่คาดการณ์ว่าจะมีรายรับ 2.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบขาดดุลเหมือนในอดีต ทำให้ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่าย ที่มากถึงร้อยละ 74 ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำ หรืองบเงินเดือน ทำให้เหลืองบลงทุนร้อยละ 26 เท่านั้น ซึ่งอาจไม่สามารถตอบสนองนโยบายของพรรคการเมืองที่หาเสียงไว้ได้
ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ติดตามการอภิปรายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะเกี่ยวข้องกับรายได้ และค่าครองชีพโดยตรง ขณะที่นายสุรพล ตั้งคณะสกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อ และนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศ ซึ่งมีมูลค่าสูง แต่ควรจะใช้งบประมาณในการพัฒนาประเทศมากกว่า
ขณะที่นายทองสุข ใจจุมปา ชาวบ้าน ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย กล่าวว่า สนใจข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณที่รัฐบาลจะนำมาช่วยเหลือด้านการเกษตร และขอให้รัฐหามาตรการดูแลสินค้าเกษตรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านนายอาทิตย์ สุวรรณโชติ ชาวจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า การอภิปรายในภาพรวมราบรื่นดี ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ส่วนงบฯ ของกระทรวงกลาโหม มองว่าก็ยังจำเป็นต่อความมั่นคงของประเทศ แต่อยากให้ดูเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านด้วย
ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนฝากให้รัฐบาลนำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน โดยเฉพาะการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ และทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว