วันนี้ (26 ส.ค.2562) นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กรณีปรากฏข่าวว่ากำไลอิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) ที่มีไว้ใช้ในการควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติตามคำสั่งของศาล ซึ่งจัดซื้อจัดจ้างโดยกรมคุมประพฤติ ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในบางกรณี ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ทีผ่านมาตัวแทนจากบริษัทฟอร์ท คอเปอร์เรชั่น จำกัด บริษัทผู้ประมูลให้เช่าระบบกำไลอีเล็กทรอนิกส์ (กำไลอีเอ็ม) ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการเช่าอุปกรณ์กำไลอีเอ็มของกรมคุมประพฤติ ที่ให้เช่าใช้จากจีน พบปัญหาไม่มีสัญญาณแจ้งเตือน และถอดออกเองได้
จากนั้น กระทรวงยุติธรรมได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยให้พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ และกำหนดให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวมายังกระทรวงยุติธรรมแล้ว โดยมีข้อค้นพบ 3 ข้อดังนี้
- อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) สามารถถอดออกจากข้อมือได้โดยไม่ต้องใช้การตัดสายรัดหรืออุปกรณ์ในการถอด และสามารถสวมใส่กลับเข้าไปได้นั้นเป็นความจริง
- มีผู้ถูกคุมความประพฤติที่สวมใส่อุปกรณ์กำไลอีเอ็ม หลายรายเกิดอาการแพ้ โดยบางรายเกิดผื่นสีแดงขึ้นบริเวณข้อมือ หรือมีผิวหนังแห้งบริเวณข้อมือ หรือมีแผลติดเชื้อบริเวณข้อมือ ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในขอบเขตของงาน (TOR) ข้อ 4.1.1ระบุว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ต้องได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือหรือจากผู้ผลิตว่า เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แก่ผู้สวมใส่ได้โดยง่าย
- กำไลอีเอ็ม มีการแจ้งเตือนบ่อยครั้ง และอาจจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสัญญาณแจ้งเตือนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ จากการตรวจสอบข้อมูลสถิติจากศูนย์ควบคุมการติดตามตัวผู้กระทำความผิดในงานคุมประพฤติด้วยอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการนี้เมื่อ 1 ม.ค.ถึงปัจจุบัน พบว่า มีผู้ถูกคุมประพฤติที่เข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามตัวในแต่ละเดือนอยู่ที่ 200-300 คน แต่มีการแจ้งเตือนว่าอุปกรณ์ถูกทำลายสูงกว่า 1,000-100,000 ครั้งต่อเดือน หรือ ไม่มีสัญญาณสูงกว่า 20,000-170,000 ครั้งต่อเดือน
กระทรวงยุติธรรม จะได้แจ้งกรมคุมประพฤติทราบข้อค้นพบ และพิจารณาดำเนินการในฐานะคู่สัญญาตามอำนาจหน้าที่โดยเร็วต่อไป รวมทั้งจะได้ดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุในเรื่องนี้เพิ่มเติม
กรมคุมประพฤติ สั่งเอกชนแก้ปัญหาด่วน
ด้านนายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า หลังจากตรวจพบว่ากำไลอีเอ็มสามารถถอดออกโดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือน จึงเรียกประชุมและมีมติว่า ข้อผิดพลาดไปจากสัญญา ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเอกชนคู่สัญญาให้นำอุปกรณ์ที่เทียบเท่า หรือดีกว่าเข้ามาเปลี่ยน โดยพื้นที่ กทม.และปริมณฑลต้องแก้ไขภายใน 6 ชั่วโมง ส่วนต่างจังหวัดจะต้องแก้ไขภายใน 8 ชั่วโมง และในสัญญาเช่าระบุว่าหากคู่สัญญาไม่สามารถนำอุปกรณ์มาเปลี่ยนจะถูกปรับวันละ 500 บาทต่อวันต่อชุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สอบสเปก "กำไลอีเอ็ม" ถอดออกเองได้-ไร้สัญญาณเตือน