วันนี้ (6 ส.ค. 2562) รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า จีนเป็นผู้บงการค่าเงินหยวน หลังจากธนาคารกลางจีนดำเนินมาตรการปรับลดค่าเงินเหลือเพียง 7 หยวน หรือประมาณ 30 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2553
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ร้อยละ 10 มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9.2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างผู้แทนของสหรัฐอเมริกาและจีนที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อสิ้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ยังไม่ประสบผลสำเร็จ
...during the talks the U.S. will start, on September 1st, putting a small additional Tariff of 10% on the remaining 300 Billion Dollars of goods and products coming from China into our Country. This does not include the 250 Billion Dollars already Tariffed at 25%...
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 1 สิงหาคม 2562
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อรับมือกับการแข่งขันอย่างไม่ยุติธรรมของรัฐบาลจีน
ด้านดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริการ่วงลงมา 767.27 จุด หลังจากธนาคารกลางจีนดำเนินมาตรการปรับลดค่าเงินหยวน ทำให้นักลงทุนกังวลใจว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าของ 2 ประเทศ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า บริษัทสัญชาติจีน ได้หยุดซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐอเมริกาและขู่ว่าอาจกำหนดมาตรการรีดภาษีผลิตภัณฑ์เกษตรของสหรัฐอเมริกาที่ซื้อหลังจากวันที่ 3 ส.ค. เป็นต้นไป