วันนี้ (26 เม.ย.2562) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติ ให้คณะกรรมการฝ่ายกฎ หมายของการรถไฟ ที่แจ้งรายละเอียดเรื่องความเป็นมาของคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2534 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2540
สำหรับแนวทางในการพิจารณา หลังจากนี้ได้สั่งการรักษาการผู้ว่าการรถไฟ สำนักกฎหมายการรถไฟฯ ตั้งทีมทำงานร่วมกับ กระทรวงคมนาคม สำนักงานอัยการสูงสุด กรมบัญชีกลาง ในการดำเนินการตามคำพิพากษา โดยให้รัฐมีผลกระทบน้อยที่สุด
เบื้องต้นตั้งกรอบทำงานในระยะเวลา 180 วัน เพื่อตั้งทีมเตรียมข้อมูลเท่าที่การรถไฟ จะสามารถหาได้ ส่วนแนวทางว่าจะมีการเจรจาหรือไม่ และตัวเลขที่จะต้องชำระ ขอยังไม่ตอบเนื่องจากว่าจะต้องรวบรวมข้อมูลให้แน่ชัดก่อน
ส่วนการเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการโครงการในขณะนั้น อาจมีการเอาผิดย้อนหลัง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ ด้วยเนื่องจากบางคนเข้ามาในช่วงที่โครงการจบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า หนี้ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบ จึงอาจจะต้องดูความชัดเจนว่ามีผลกระทบกับแผนฟื้นฟูหรือไม่ ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อหาตัวเลขที่มาจากแหล่งต่างๆให้เป็นแหล่งเดียวกัน คาดว่าจะมีความชัดเจนในการตั้งคณะทำงานในช่วงเวลา 1 เดือน
นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากสรุปดอกเบี้ย และเงินต้นทั้งหมดกรณีจ่ายค่าชดเชยโฮปเวลล์ พบว่าเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดมีจำนวน 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้น 12,000 ล้านบาท และดอกเบี้ย 13,000 ล้านบาท
ขั้นตอนจากนี้ รฟท.จะเสนอวงเงินที่ต้องจ่ายคืนให้กระทรวงคมนาคมวันที่ 29 เม.ย.นี้ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 30 เม.ย.นี้ โดยยืนยันจะขอให้รัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ช่วยจ่ายหนี้ก้อนนี้ด้วย เนื่องจากปัจจุบัน รฟท.มีหนี้สะสมประมาณ 120,000 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
26 เม.ย.นี้ ถกปมจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 1.18 หมื่นล้าน
ศาลสั่ง "คมนาคม" จ่าย 1.18 หมื่นล้าน บอกเลิกสัญญา "โฮปเวลล์"