วันนี้(23 เม.ย.2562) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาหลังจากรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จได้ผลเป็นที่พอใจ โดยลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด และในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อได้ 1,300-1,500 ล้านใบ หรือประมาณ 2,686 ตัน
จากการสำรวจพบผู้หญิงใช้ถุงพลาสติก มากกว่าผู้ชายในการซื้อของและกับข้าว จึงเตรียมจะรณรงค์ให้กลุ่มแม่บ้านลดใช้ถุงพลาสติกลง แล้วใช้ถุงผ้ามากขึ้น
ส่วนโฟมลดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณการใช้ทั้งประเทศหลังผู้ประกอบการและผู้ผลิตโฟมหันมาใช้ชานอ้อย เข้าสู่กระบวนการผลิตจำหน่ายแทนโฟม จึงเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้โฟมในการจับจ่ายสินค้าในตลาดสด ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น
เล็งเลิกใช้หลอด-โฟม-พลาสติกหูหิ้วปี 2565
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกและโฟมให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐหลังคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่าง Road Map การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงาน ทั้งการลดและเลิกใช้พลาสติก โดยใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปีนี้ จะเลิกใช้พลาสติก 3 ชนิด คือ พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม พลาสติกผสมสารอ๊อกโซ่ และพลาสติกผสมสารไมโครบีท
ในปี 2565 จะเลิกใช้ อีก 4 ชนิด คือ พลาสติกหูหิ้วที่มีความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร หลอดพลาสติก ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นต้องใช้สำหรับเด็ก คนชรา และผู้ป่วย และแก้วพลาสติกแบบบาง ประเภทใช้ครั้งเดียว
นอกจากนี้จะเดินหน้าเน้นการใช้นวัตกรรม มาผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้ทดแทนโฟมและพลาสติก โดยต้องไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นในการที่ประเทศไทยจะเลิกใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถือเป็นความท้าทายของไทยและในฐานะประธานอาเซียนของไทยปีนี้ด้วย