วันนี้ (22 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า อาคารสำนักงานหลายแห่งที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ต้องอพยพคนออกจากอาคาร หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ตามรายงานของสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องประกาศหยุดเดินรถไฟและปิดท่าอากาศยานคลาร์ค
ลิเลีย พิเนด้า ผู้ว่าราชการจังหวัดปัมปังกา กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ABS-CBN ว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 3 คน ถูกทับอยู่ใต้ซากอาคารที่พังลงมาที่เมืองโปรัก ขณะที่ผู้หญิงสูงอายุและหลาน เสียชีวิตจากเหตุอาคารพังถล่มที่เมืองลูเบา ซึ่งอยู่ห่างไปทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ประมาณ 90 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือคนอีกหลายสิบคนที่ติดอยู่ในอาคาร จ.ปัมปังกา ถูกกระทบมากที่สุดจากแรงแผ่นดินไหว
ท่าอากาศยานคลาร์ค ที่เมืองปัมปังกา ต้องปิดให้บริการอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ระบุว่าต้องตรวจสอบความเสียหายของลานบิน ซึ่งในแต่ละวันสนามบินคลาร์ครองรับผู้โดยสาร 8,000 คนและมากกว่า 600 เที่ยวบินในแต่ละสัปดาห์ พร้อมขอให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าออกสนามบินที่กรุงมะนิลาในช่วงนี้หมั่นตรวจสอบ เพราะเที่ยวบินอาจจะล่าช้า นอกจากนี้ยังมีรายงานไฟฟ้าขัดข้องใน 8 จังหวัด
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนไฟในแปซิฟิก ซึ่งหมายถึงบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง โดยวงแหวนไฟกินบริเวณจากญี่ปุ่นถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอ่าวแปซิฟิก
This is pool water spilling from the rooftop of this building after an #earthquake struck the Philippines.
— Brennan Prill ⚡︎ (@WxBrenn) 22 เมษายน 2562
Source: rhetteala via Instagram. pic.twitter.com/B33bcr4Q06
Based from my relatives again, the Clark Airport from the Philippines also broked down. Please be aware of your surroundings as it still may cause more aftershocks #earthquake #Aftershock pic.twitter.com/ioLibGAeon
— LOL SKSKSKS (@ShainaSKSKSK) 22 เมษายน 2562