วันนี้ (20 มี.ค.2562) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่สวนลุมพินีตรวจราชการติดตามการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะให้สวยงาม เพิ่มพื้นที่สีเขียวแก่กรุงเทพมหานคร พร้อมพบปะทักทายประชาชนที่มาออกกำลังกาย และ ทำกิจกรรมสันทนาการภายในพื้นที่สวนลุมพินี โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ถ่ายภาพและพูดคุยอย่างใกล้ชิด สอบถามปัญหาที่พบในการใช้พื้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่ยังขอให้แก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ และเต้นท์ที่ตั้งตามจุดพักหลังคาต่ำจึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครปรับปรุงแก้ไข
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าทักทายกลุ่มผู้ออกกำลังกายสูงวัยพร้อมยกน้ำชาคารวะ และร่วมรับประทานอาหารเช้าสุขภาพ เช่น กล้วยน้ำว้ากับผู้สูงอายุ ท่ามกลางเสียงเชียร์ตะโกนบอกรัก และให้กำลังใจ ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกนานเท่านานถึง 3 สมัย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแวะทักทายพ่อค้าแม่ขายที่จำหน่ายอาหารอยู่ภายในสวนลุมพินี ซึ่งต่างยืนยันว่า สามารถค้าขายได้ตามปกติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไหนใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี
ผู้สื่อข่าวยังถามถึง ความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในวันที่ 24 มี.ค. นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีความพร้อม และจะพาครอบครัวไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย
ก่อนย้อนถามว่า ผมต้องเตรียมตัวอะไร เพราะทำงานมาตลอด 5 ปี ไม่ต้องเตรียมแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ให้คำตอบ เรื่องการร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ กับพรรคพลังประชารัฐรวมถึงความมั่นใจที่จะชนะการเลือกตั้งหรือหากแพ้การเลือกตั้งจะทำอย่างไร ระบุ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
ผู้สื่อข่าวยังตั้งคำถามเพิ่มเติม ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นของขวัญวันเกิดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามว่าบ้านเมืองจะได้อะไร ประชาชนมีความสุขหรือไม่ อย่ามาถามตนเองจะได้อะไรจากการเลือกตั้ง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสวนเบญจกิติ ตรวจเยี่ยมการปรับภูมิทัศน์ ก่อนนำคณะเดินทางไปติดตามความก้าวหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สีแดง ชานชาลารถไฟความเร็วสูง และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และเยี่ยมชมจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟ MRT กับสถานีกลางบางซื่อ
ก่อนที่ช่วงบ่าย จะนำคณะเดินทางไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของ จ.ฉะเชิงเทรา ในการรองรับแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมทั้งพบปะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อ พร้อมพบปะประชาชนที่โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหารตามลำดับต่อไป