สื่อออนไลน์ นอกจากใช้สื่อสาร ขณะนี้ยังพบมีการนำมาใช้ติดต่อซื้อขายยาเสพติด ตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบเครือข่ายที่ใช้ชื่อว่า "มันทุกเม็ด" ที่สร้างฐานลูกค้าโดยการรวมกลุ่มทางเฟซบุ๊กทำให้ยาเสพติดแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันก็สามารถจับผู้ต้องหาที่เปิดธุรกิจขายยางรถยนต์บังหน้า และนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาฟอกเงินให้กับเครือข่าย
บริษัท ป.รุ่งโรจน์ยางยนต์ จำกัด ใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นเป้าหมายที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และตำรวจกองปราบ สนธิกำลังกันเข้าไปบุกจับ นายรุ่งโรจน์ จิรัฐติกาลพันธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาฟอกเงินคดียาเสพติด ที่พบว่าเปิดบริษัท ขายยางและล้อแม็กซ์รถยนต์บังหน้า โดยนำเงินจากการค้ายาเสพติดมาฟอกเงิน
ตำรวจตรวจพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท กับการเปิดธุรกิจเพียง 6 เดือน และเส้นทางการเงินที่มาจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างชัดเจน ทำให้ตำรวจมีพยานหลักฐานสำคัญในการเข้าตรวจค้น และนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาคนนี้ ซึ่งเขาก็อ้างว่า ไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนเงินกว่า 100 ล้านบาท ขอให้การในชั้นศาล
พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 กล่าวว่า "มีธุรกิจแบบนี้อีกแห่งหนึ่ง ใน จ.พิษณุโลก มีการโอนเงินก่อนหน้าที่จะเปิดกิจการนี้ในปี 59 -60 จากนั้นจึงนำเงินมาสร้างอาคาร มาทำธุรกิจนี้ในปี 61 โดยเม็ดเงินในบัญชีหลัก 100 ล้านบาท"
ภายในบริษัทยังพบยางรถยนต์ และล้อแม็กซ์ ที่ส่วนใหญ่จะใส่ในรถกระบะที่ลงแข่งในสนามรถซิ่ง และยังพบว่าบริษัทนี้จะขายในราคาที่ถูกกว่าที่อื่นในราคาชุดละ 9,000 บาท
เครือข่าย "มันทุกเม็ด" ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กตั้งกลุ่มให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก โดยต้องนำบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มาลงทะเบียน จากนั้นจะได้ยาบ้า 50 เม็ดไปก่อน และหากไม่จ่ายค่ายาเสพติดก็จะตามไปทำร้ายร่างกาย
สำหรับผู้สั่งการเครือข่ายนี้ยังหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และถือว่าเป็นการพัฒนารูปแบบการค้ายาเสพติดที่เข้าถึงกลุ่มเยาวชนที่ปัจจุบันใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งการตรวจสอบของตำรวจพบมีบัญชีเฟสบุ๊กที่เกี่ยวข้องกว่า 9,600 บัญชี และกลุ่มนี้เตรียมขยายหัวหน้าเครือข่ายให้ครบทุกจังหวัด