วันนี้ (22 ส.ค.2561) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีที่มีรายงานข่าวว่าหญิงสาวชาวอุทัยธานีเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์สายพันธุ์ H1N1 ขณะนี้ได้สั่งการให้ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยเร็ว จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคตามฤดูกาลที่พบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ทุกปีก็จะพบผู้ป่วยมากขึ้นช่วงอากาศชื้นและเย็นในช่วงฤดูกาลดังกล่าว
สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ส.ค.นี้ มีผู้ป่วย 89,846 ราย เสียชีวิต 12 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 15-44 ปี) และกลุ่มวัยเรียน
ส่วนในปี 2560 ที่ผ่านมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (ม.ค.-ส.ค.) มีผู้ป่วยมากถึง 106,415 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 29 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตในปีนี้ที่ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง
ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี สั่งการให้หน่วยงานของสาธารณสุขทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เฝ้าระวังตรวจคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยเป็นไข้หวัดอย่างละเอียด หากมีภาวะเสี่ยง และสงสัยว่าผู้ป่วยจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 จะให้ยาต้านทันที ส่วนผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กว่า 4,000 คน
แนะเลี่ยงพื้นที่แออัด-มีคนเยอะ
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในช่วงนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังการรับเชื้อจากผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือมีคนจำนวนมาก สามารถป้องกันได้โดยยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ คือ 1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย
2.ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร 3.เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือในสถานที่แออัด มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก และ 4.หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่เป็นโรคอ้วน เป็นต้น ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีไข้สูงเกิน 2 วัน ปวดเมื่อยร่างกายให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่สถานพยาบาล ถ้ามีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ภาพ:กรมควบคุมโรค