วันนี้ (19 มิ.ย.2561) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีนายสุนทร ทรงฤกษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาพร้อมองค์คณะรวม 9 คน อ่านพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อม.51/2560 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎ หมายอาญามาตรา 157 โดยศาลพิพากษาให้จำคุก นายสุรพงษ์ จำนวน 2 ปีไม่รอลงอาญา
ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและหลบหนีหมายจับในคดีข้อหาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ สามารถเดินทางในต่างประเทศได้โดยสะดวก อยู่ในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้รัฐบาลไทยไม่อาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากเหตุไม่มีหนังสือเดินทางได้อีกทั้งยังส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมไทยอ่อนแอและไม่มีสภาพบังคับตามลำดับ เป็นผลบั่นทอนความศรัทธาของกฎหมายจึงไม่มีเหตุสมควรรอลงอาญาการลงโทษ โดยขณะนี้ทีมทนายความอยู่ระหว่างการ ขอยื่นประกันตัวจำเลยด้วยหลักทรัพย์ที่เตรียมมาเป็นเงินสดและโฉนดที่ดินมูลค่า 10 ล้านบาท
คดีนี้ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือนมี.ค.2560 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา นายสุรพงษ์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2554 ที่ถูกออกหมายจับในคดีร่วม นปช.ก่อการร้ายและคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับของกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทางปี 2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4)
และที่ผ่านมาได้มีการนัดไต่สวนพยานทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายโจทก์มีพยานบุคคล 7 ปาก ขณะที่ฝ่ายจำเลยมีพยาน14 ปาก ซึ่งก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์มูลค่า3 ล้านบาทพร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ต่อมาศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายสุรพงษ์ โดยให้ประกันในวงเงิน 5 ล้านบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ โดยคำร้องขอประกันตัวอ้างเป็นโรคความดัน-เบาหวาน