นายพายัพ รอดเมือง ผู้ป่วยติดเตียง ที่เตรียมสละดวงตา 1 ข้างให้กับหญิงตาบอดใน จ.บุรีรัมย์ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดย 20 กว่าปีก่อน เขาประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีหลานคอยดูแล 1 คน และสามารถใช้เครื่องช่วยพยุงเพื่อเคลื่อนไหวได้ ย้อนไปเมื่อ 4 เดือนก่อน หลังจากได้เห็นเรื่องราวของหญิงชาวบุรีรัมย์คนดังกล่าว ผ่านทางโทรทัศน์เห็นสภาพความเป็นอยู่ และภาระที่ต้องดูแลพ่อแม่ชรา และลูกเล็กอีก 1 คน
ก็สงสารเขานะ พ่อแม่เขาก็อายุ 70-80 แล้ว ตัวเขาเองก็มีลูกเล็กอีก ก็เลยคิดว่าเราก็ทำอะไรไม่ได้ นอนบนเตียงก็ให้ดวงตาเขา 1 ข้าง เหลือ 1 ข้างเอาไว้พอตักข้าวกินได้ก็ยังดี นึกว่าทำบุญทำกุศลกันไป ได้ดวงตาไปข้างนึงก็ได้ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อแม่เขาได้
แม้นายพายัพจะไม่ได้ลำบากขัดสน แต่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่สะดวกสบาย ร่างกายก็ไม่เหมือนแต่ก่อน แต่เหตุใดจึงตัดสินใจติดต่อไปยังโรงพยาบาลพนมสารคาม ปรึกษาหมอว่า ดวงตาของเขาจะต่อชีวิตให้กับหญิงคนดังกล่าวได้หรือไม่ และวันนี้มีนักจิตวิทยาสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อสอบถามรายละเอียดและประวัติ และนี่คือบทสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือที่ทั้ง 2 คนได้คุยกันแม้ว่าจะยังไม่ทราบผลว่าเซลล์ประสาทตาจะเข้ากันได้หรือไม่
นายพายัพ : ลุงตั้งใจบริจาคอยู่แล้ว
น.ส.สุนิสา : ลุงสูญเสียทั้งการเดินได้ แล้วจะมาสูญเสียดวงตาอีก ลุงทำใจได้แล้วจริงๆหรอคะ
นายพายัพ : ได้ๆๆ
น.ส.สุนิสา : จะเป็นยังไงบ้างคะ ลุงจะมองเห็นมั้ย
นายพายัพ : ลุงก็ยังเหลืออีกข้างนึงไง ลุงก็เป็นคนพิการเหมือนกัน ลุงก็ทำงานไมได้ เดินไม่ได้
ภายใต้ดวงตาที่มองไม่เห็น แต่น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มก็เกิดขึ้น น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง ผู้พิการทางสายตา จ.บุรีรัมย์บอกว่า นี่เป็นโอกาสที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับตลอดชีวิตนี้ หากได้รับการผ่าตัดดวงตา สิ่งแรกที่เธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือ ใบหน้าของหน้าลูกชาย
ก็ดีใจค่ะที่จะได้กลับมาเดินไปไหนมาไหนได้ ที่สำคัญหนูอยากเห็นหน้าลูกหนูค่ะ ตั้งแต่แรกเกิดหนูไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย อยากเห็นหน้าคนที่หนูรักทุกคน ไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าบริจาคดวงตาให้ ก็อยากให้ลุงหายไวๆ ในเมื่อหนูเดินได้ ก็อยากให้ลุงเดินได้เหมือนหนู
หากเหลือตาข้างเดียว ลุงพายัพ ระบุว่า คิดว่าไม่น่าจะลำบาก ไหนๆก็เดินไปไหนไม่ได้แล้ว ปกติก็ทำงานไมได้อยู่แล้ว ก็คงจะไม่มีอะไรมาก ก็ ไม่ค่อยกังวลกับการใช้ชีวิต สิ่งที่อยากได้ตอนนี้คือรถวีลแชร์ เพราะหากทำตามาอาจจะกะระยะไม่ค่อยได้ หรือ ตอนนี้ก็เดินไปไกลไม่ได้เพราะจะล้มเลย
ณ ขณะนี้ นายพายัพยังคงพูดคุยกับแพทย์อย่างต่อเนื่องโดยระบุว่าแม้ว่าสายตาจะยาวไปบ้างแต่สุขภาพตายังดี และยังคงรอคอยคำตอบว่าเซลล์ประสาทตาของทั้งลุงพายัพและ น.ส.สุนิสา น่าจะเข้ากันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
สาวตาบอด "ไม่ผิดหวัง" แม้รับบริจาคดวงตาจากชายพิการไม่ได้
กว่าล้านคน บริจาคดวงตาสภากาชาดฯ 50 ปี ใช้ได้จริง 1.2 หมื่นคน