วันนี้(8พ.ย.2560) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เผยหลังร่วมการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 1/2560 โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมายเป็นประธานในการประชุม โดยที่ประชุมมีมติให้คดีความผิดทางอาญาอื่น เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษพ.ศ.2547 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) จำนวน 4 เรื่อง คือ 1.เกี่ยวกับขบวนการฟอกเงินจากการทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ตามโครงการรับจำนำข้าวปี พ.ศ.2554-2555 ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว แต่ทางสำ นักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้มีการมาร้องทุกข์ให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติม พร้อมเผยว่ากรณีดังกล่าวเกี่ยวกับการฟอกเงินของนายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง ซึ่งดีเอสไอ จะดูแลเกี่ยวกับการดำเนินคดีทางอาญา แต่ในส่วนของทางคดีแพ่งนั้นเป็นหน้าที่ของ ปปง. ในการดำเนินการ
นอกจากนี้ยังมีคดีขบวนการฟอกเงินทุจริต การทำธุรกรรมทางการเงินของคณะกรรมการสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กับบริษัทบิลเลี่ยนอินโนโวแทล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีฟอกเงินคดีพิเศษ
ส่วนคดีที่ 3 การกล่าวหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเชนลิสซิ่ง จำกัด มีพฤติการณ์ เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและการหลีกเลี่ยงภาษีอากร และ 4.กรณีบริษัทเอ็ท-แลนดาร์ช จำกัด กับพวก ได้ร่วมกันฉ้อโกงหรือลวงขายเครื่องตรวจหาสารเสพติดยี่ห้ออัลฟ่า 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับกรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย
ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ คดีนายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง กับพวกเพิ่มเติมอีก จำนวน 25 รายการ มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,300 ล้านบาท