การแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 14 ปีนี้ ในภาคเหนือ มีเด็กไร้สัญชาติและไม่มีสถานะบุคคลตามกฎหมาย ผ่านรอบคัดเลือก ระดับภูมิภาค ถึง 2 คน
วันนี้ (22 ส.ค.2560) นางโหม่ และสามี แรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา ตัดสินใจทิ้งรายได้รายวันกว่า 700 บาท เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อขอใบอนุญาตออกนอกพื้นที่ให้กับบุตรชายทั้ง 2 คน ซึ่งไร้สัญชาติ และไม่มีสถานะบุคคลตามกฎหมาย หลังผ่านเข้ารอบคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับภูมิภาค เพื่อเข้าแข่งขันพับเครื่องบินกระดาษ ซึ่งจะต้องไปแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี
นางโหม่ ผู้เป็นแม่เล่าว่า หลายปีก่อนโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่บุตรชายเคยศึกษา ได้ยื่นขอรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายการทะเบียนราษฎร ประเภทนักเรียนนักศึกษาไร้สัญชาติในสถาบันการศึกษาไทยให้กับบุตรชายทั้ง 2 คนแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการเดินทางออกต่างจังหวัด หลังทั้งคู่ตั้งใจฝึกซ้อมนานกว่า 2 เดือน ซึ่งเป็นความหวังของครอบครัวและทางโรงเรียน
"แม่ตั้งใจทำงานเก็บเงินให้เข้าได้ไปเรียนและได้ไปเพราะเป็นโอกาสของน้อง" นางโหม่ บอก ส่วน ด.ช.แสงทาน บอกว่า อยากชนะ อยากให้โรงเรียนมีชื่อเสียง อยากให้ครูภูมิใจในตัว เพราะครูได้พาไปฝึกสอน
ด้านนายหม่อง ทองดี ในฐานะหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน และเป็นผู้ฝึกสอนพับเครื่องบินกระดาษ ซึ่งเคยประสบปัญหาคล้ายกันเมื่อหลายปีก่อน มองว่าแม้จะเดินทางไปยังสถานที่จัดงานได้ แต่ความพยายามทั้งหมดอาจสะดุดลงทันที หากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้จัดงาน ยึดตามข้อกำหนดที่ต้องยื่นหนังสือรับรองสถานะตัวบุคคลที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยก่อน จึงจะสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้
ล่าสุด หลายหน่วยงานที่ทราบปัญหาอยู่ระหว่างหารือถึงแผนในการช่วยเหลือ และติดต่ออธิบายข้อจำกัดของนักเรียนไร้สถานะทั้ง 2 คน ให้คณะกรรมการผู้จัดงานทราบในเบื้องต้นแล้ว และหากไม่เป็นผลจะประสานให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ พร้อมกับผลักดันให้เร่งพิจารณารับรองสิทธิให้กับเด็กที่ไร้สถานะทางบุคคลหรือเด็กติด G ให้เข้าสู่ทะเบียนประวัติประเภทบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนในลำดับต่อไป