โรฮิงญาชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมาเรียกร้องยุติความรุนแรงรัฐยะไข่

วันนี้ (25 พ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโรฮิงญาและชาวมุสลิมในประเทศไทยรวมตัวกันที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมายุติความรุนแรงในรัฐยะไข่ ตามกำหนดการเดิมตัวแทนผู้ชุมจะเข้ายื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่ เวลา 14.00 น. แต่คาดว่ากำหนดการอาจล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อย 100 นาย พร้อมทั้งรวมกับตัวแทนผู้จัดการชุมนุมในการตรวจค้นผู้ชุมนุมอย่างเข้มงวด ป้องกันการพกพาอาวุธ ไฟแช็ค ของมีคมและขวดแก้ว เข้ามาในบริเวณพื้นที่

ความรุนแรงในรัฐยะไข่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ภายหลังการบุกโจมตีสถานีตำรวจใกล้พรมแดนบังคลาเทศ ทำให้ตำรวจเมียนมาเสียชีวิต 9 นาย รวมทั้งปล้นอาวุธ รัฐบาลเมียนมา ระบุว่า กลุ่มชาวโรฮิงญาเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวและได้ส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ ต่อมามีการกล่าวอ้างว่ากลุ่มทหารล่วงละเมิดทางเพศสตรี เผาบ้านเรือน และสังหารชาวโรฮิงญา จนทำให้หลายหมื่นคนต้องอพยพเข้าพรมแดนบังคลาเทศ

ขณะที่นายหม่อง จอนุ ประธานสมาคมโรงฮิงญาแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมา โดยเฉพาะนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา เร่งดำเนินมาตรการยุติความรุนแรงและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่

ล่าสุดเวลา 15.00 น. ตัวแทนจากสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี มอบหนังสือให้ข้อเรียกร้องต่อตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา โดยเนื้อหาระบุถึงสถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่ที่ชาวโรฮิงญาถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง พร้อมขอให้รัฐบาลเมียนมายุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในทันที รวมทั้งให้รัฐบาลเปิดทางให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่และเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้นานาชาติและองค์การสหประชาชาติมีส่วนในการร่วมสอบสวนด้วย

ก่อนหน้านี้ ตัวแทนจากสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ระบุว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งองค์กรเพื่อดำเนินการขอถอดถอนรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพของนางอองซานซูจี ซึ่งรู้สึกผิดหวังกับการจัดการปัญหา