วันนี้ (24 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในการประชุม ได้สั่งการให้กรุงเทพมหานครเตรียมการทางกายภาพเพื่อรับสถานการณ์ เช่น ท่อระบายน้ำ ทางน้ำ การพร่องน้ำและระบบปั๊มน้ำต้องมีความพร้อม ส่วนการเตรียมการหน่วยสนับสนุน ทั้งทหาร ตำรวจ ปภ. และนักศึกษาอาชีวะ ต้องพร้อมรับแจ้งสถานการณ์จากกรุงเทพมหานครตลอดเวลา เน้น 4 หลักการ คือ การแจ้งเตือน การสื่อสาร การป้องกัน และการดำเนินงานแก้ไขช่วยประชาชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการดูแลหากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง ว่า กทม.จะพยายามพร่องน้ำในคลองให้มากที่สุด คาดว่าหากอุโมงค์แห่งใหม่ใต้คลองบางซื่อแล้วเสร็จ จะช่วยดึงน้ำจากจุดนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวงฝ่ายบำรุงทาง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงที่ 13 และแขวงทางหลวงในสังกัดที่รับผิดชอบพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กำหนดจุดเฝ้าระวัง จุดที่สุ่มเสี่ยง อ่อนไหวน้ำท่วมทาง พร้อมทั้งเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือเครื่องจักรอื่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกปลอดภัยให้พร้อมตลอดเวลา
สำหรับพื้นที่ที่เป็นจุดเฝ้าระวังจุดที่อ่อนไหว คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมขัง 20 จุด โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ จุดเสี่ยงอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ถนนแจ้งวัฒนะช่วงศูนย์ราชการ คลองประปา ถนนรามอินทรา ช่วงรามอินทราซอย 5 ถนนสุวินทวงศ์ บริเวณนิมิตใหม่-ราษฎร์อุทิศ และถนนเกษตร-นวมินทร์ บริเวณคลองบางบัว ส่วนในพื้นที่ จ.นนทบุรี จุดเฝ้าระวังอยู่ที่ถนนงามวงศ์วาน บริเวณช่วงใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน ถนนติวานนท์ บริเวณช่วงอุโมงค์ปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณแยกเมืองทอง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จุดเสี่ยงที่ถนนสุขุมวิท บริเวณซอยแบริ่ง-ซอยลาซาล แยกปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณ กม.33-กม.34 ส่วน จ.ปทุมธานี มีจุดเสี่ยงบนถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าตลาดสี่มุมเมือง หน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และหน้าศูนย์มิตซูบิชิ