การใช้เทคนิคพิเศษเล่าเรื่องโลหะปราสาทวัดราชนัดดา

การใช้เทคนิคพิเศษเล่าเรื่องโลหะปราสาทวัดราชนัดดา

การใช้เทคนิคพิเศษในรูปแบบสื่อทันสมัยเพื่อช่วยในการเล่าเรื่องโลหะปราสาทวัดราชนัดดาช่วยให้ผู้ชมเข้าใจถึงที่มาของโบราณสถานแห่งนี้พร้อมไปกับตื่นตากับภาพที่ได้ชม ที่แม้เป็นเพียงนิทรรศการก็ให้ความรู้สึกเสมือนย้อนไปในอดีตแดดยามเช้าค่อยสาดแสงส่องบนโลหะปราสาท แลเห็นวิถีผู้คน และบ้านเมือง ผ่านช่วงเวลาต่างๆ จบจนยามค่ำ แม้ไร้แสงแต่ค่ำคืนที่วัดราชนัดดาก็เรืองรองไปด้วยพลุสีสวยที่ถูกจุดฉลองในงานรื่นเริง ภาพจำลองโลหะปราสาทที่เต็มไปด้วยชีวิต และสีสันนี้ถ่ายทอดด้วยเทคนิควิดีโออิงค์เจ็ท

ยังมีเทคนิคคาไลโดวิชั่นใช้ในการเล่าตำนานโลหะปราสาท และเทคนิคภาพ 3 มิติให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัดราชนัดดารามวรวิหาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระราชทานเป็นเกียรติยศแก่พระราชนัดดากำพร้า คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี หรือ สมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

นอกจากนี้ ยังให้ผู้ชมมีส่วนร่วมด้วยเทคนิคทัชสกรีน ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ และเทคนิคโฮโลแกรมขนาดเท่าจริงเล่าเรื่องศิลปะสถาปัตยกรรม การสร้างและบูรณะโลหะปราสาท เทคนิคพิเศษที่นำมาใช้ในนิทรรศการ "เรืองรองราชนัดดา หนึ่งในหล้าโลหะปราสาท" ช่วยให้การเรียนรู้ประวัติศาสตร์น่าสนใจยิ่งขึ้น

สำหรับโลหะปราสาทมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นอาคารซึ่งมีส่วนหลังคาทั้งหมดหล่อด้วยโลหะ ทองเหลือง ทองแดง สัมฤทธิ์ และรมดำ เพื่อให้สีโลหะกลมกลืนกันทั้งหมด แต่เดิมเคยมีโลหะปราสาทในโลกอยู่ 3 แห่ง ที่อินเดีย, ศรีลังกา และที่เมืองไทยซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดให้สร้างแทนการสร้างเจดีย์ที่วัดราชนัดดา มีการออกแบบสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ เป็นปราสาท 3 ชั้น 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ อันเป็นหลักธรรมสำคัญนำไปสู่การหลุดพ้น

ปัจจุบันเหลือเพียงโลหะปราสาทในเมืองไทยเท่านั้นที่ยังคงความสมบูรณ์เพียงแห่งเดียวในโลก เรื่องราวเหล่านี้ถูกถ่ายทอดและจัดแสดงในห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยในวันที่ 23 กันยายน มีกิจกรรมชวนฟังเทศน์ ทำสมาธิ และปฏิบัติธรรม เวลา 17.00 น. บริเวณโลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร