นอร์เวย์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากเป็นอันดับ 1 ของโลก และตั้งเป้าหมายที่จะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะยกเลิกขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน โดยสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 100% ในปี 2025 ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไม่น่าจะยากจนเกินไป หากเทียบจากสัดส่วนการใช้งานในแต่ละปี มาดูกันว่าอะไรบ้างที่เป็นแรงผลักดันให้นอร์เวย์กลายเป็นประเทศที่มีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดในโลก
จุดเริ่มของรถ EV มาจากภาษีและวงดนตรี
ในช่วงปี 1990 รัฐบาลนอร์เวย์ได้เริ่มใช้มาตรการภาษีเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CO2 Tax) ซึ่งนำไปสู่การสนับสนุนให้มีการผลิตและใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาด โดยมีกลุ่มนักร้องชื่อดังชาวนอร์เวย์ วง A-ha ช่วยขับเคลื่อนแนวคิดการใช้รถยนต์ EV ให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น โดยได้ทำให้เห็นว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ทำได้จริง แม้ว่าจะเดินทางได้ไม่เกิน 45 กิโลเมตร แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
นโยบายสนับสนุนของรัฐบาล ให้คนใช้รถ EV มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกในนอร์เวย์ ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่สูงมากในอดีต จึงทำให้รัฐบาลหาทางออกด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีมาตรการสนับสนุนหลายอย่าง เช่น มาตรการขึ้นภาษีรถยนต์น้ำมัน รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
เพิ่มจุดบริการเพื่อรองรับการใช้งานรถ EV
นอกจากความน่าสนใจของมาตรการจูงใจแล้ว นอร์เวย์ยังได้พัฒนาและเพิ่มจุดบริการให้เพียงพอกับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งตู้ชาร์จรถไฟฟ้าให้มากขึ้นในปั๊มน้ำมันบางจุด หรือเอาตู้จ่ายน้ำมันออกแล้วติดตั้งตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปแทนที่ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถไฟฟ้าแบบสาธารณะ ทุก ๆ 50 กิโลเมตรบนถนนสายหลัก และยังสนับสนุนการติดตั้งจุดชาร์จตามครัวเรือนด้วย
การให้ความร่วมมือกับนโยบายลดโลกร้อน
ปัญหาภาวะโลกร้อนที่คนทั่วโลกต้องเผชิญ เป็นสิ่งที่ประเทศนอร์เวย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้ออกนโยบายและตั้งเป้าเป็นประเทศที่ปลอดการปล่อยก๊าซที่เป็นมลภาวะกับโลก ประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ ดังนั้นการสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงทำให้เกิดความสนใจที่จะใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดโลกร้อนได้
ที่มาข้อมูล: joingoodside, wallbox, wikipedia, canarymedia
ที่มาภาพ: freepik
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech