วันนี้ (26 เม.ย.2568) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้าง และการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว
พบผู้ติดค้างเพิ่มเติม 2 - ซากตึกความสูงลดเหลือ 3.5 เมตร
รศ.ทวิดา กล่าวว่า วานนี้ (25 เม.ย.) พบผู้ติดค้างเพิ่มเติม 2 คน ในบริเวณที่คาดว่าเป็นบันไดหนีไฟ ตามที่ทีมค้นหาจากนานาชาติได้มีการประเมินและระบุจุดต้องสงสัยไว้ ส่งผลให้ปัจจุบัน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 62 คน บาดเจ็บ 9 คน และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 32 คน จากผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 103 คน และในส่วนของความคืบหน้าการดำเนินงานสามารถรถระดับความสูงโดยเฉลี่ยทั้ง 4 โซน ลงจากวันแรกที่ 26.8 ม. เหลือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.5 ม. ได้แล้ว โดยลดลงจากวานนี้ประมาณ 1 ม. เชื่อมั่นว่า อีก 2-3 วันหลังจากนี้จะพบผู้ติดค้างที่เหลือเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มุ่งเน้นชั้นใต้ดินโซน B, A, D ด้วยการเจาะรูปตัวยู
ส่วนของการดำเนินการ วันนี้ทีมเจ้าหน้าที่มีการตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการรื้อถอน ค้นหา และขนย้ายเศษซากอาคารออกจากพื้นที่ให้ได้ถึง 330 เที่ยว เพื่อให้การดำเนินงานมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด และแผนปฏิบัติการต่อจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่ชั้นใต้ดิน โดยเฉพาะโซน B, A และ D ที่ต้องใช้วิธีเจาะเป็นรูปตัวยู คาดว่าหากสามารถเปิดพื้นที่ถึงบริเวณพื้นชั้น 1 ได้ภายใน 2-3 วันนี้ และการเคลียร์ชั้นใต้ดินที่มีความลึกประมาณ 4 เมตร จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ โดยวานนี้ใช้น้ำมันในการขนย้าย ประมาณ 6,600 ลิตร เนื่องจากเครื่องจักรหนักทำงานตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่าจะทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อนำร่างผู้ติดค้างออกมาให้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของ กทม.ในการแก้ไขเหตุสาธารณภัยอยู่แล้ว และในอนาคตหากมีการดำเนินคดีและพบผู้กระทำผิดก็จะเป็นเรื่องของการดำเนินการทางระเบียบกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ กทม. มุ่งมั่นทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายโดยยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ไป
ยืนยันอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต แล้ว 62 คน
ปัจจุบัน กทม.มีการออกใบมรณบัตรแล้ว 44 ใบ โดยสำนักงานเขตจตุจักร และรับรองการเสียชีวิตแล้ว 33 คน เหลืออีก 11 คน อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ส่วนผู้บาดเจ็บที่เคยมี 8 คน ขณะนี้เหลือเพียง 1 คน ที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันมีการยืนยันอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตแล้ว 62 คน โดยยังคงต้องค้นหาชิ้นส่วนและร่างที่สูญหายอีก 32 คน เพื่อดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป และส่งคืนให้กับญาติอย่างเหมาะสมต่อไป ซึ่งเมื่อนิติเวชมีการยืนยันอัตลักษณ์เพิ่มเติมแล้วจะมีการแจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป เพื่อให้การยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ขยายเวลายื่นคำขอรับการเยียวยาถึง 2 พ.ค.68
ในส่วนเรื่องการเยียวยาผู้ประสบความเดือดร้อนจากเหตุแผ่นดินไหว กทม. ได้ขยายการยื่นเรื่องจนถึงวันที่ 2 พ.ค.2568 เพื่อชดเชยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเขตที่มีผู้ยื่นเรื่องมากที่สุด ได้แก่ เขตจตุจักร ภาษีเจริญ ห้วยขวาง ธนบุรี ราชเทวี วัฒนา เนื่องจากเขตเหล่านี้มีอาคารสูงค่อนข้างมากที่เป็นพักอาศัย จึงทำให้ยอดผู้ประสบ ภัยมีจำนวนมาก ส่วนเรื่องของการเตรียมหลักฐานในการยื่นคำขอหนังสือรับรองกรณีผู้ประสบภัยฯ เหตุแผ่นดินไหว ต้องขอความร่วมมือประชาชนอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย อาทิ บัตรฯ ประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนกรรมสิทธิ์ห้อง บัญชีธนาคาร ใบมรณบัตร ใบรับรองแพทย์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีความไม่สะดวกบ้าง แต่ กทม.กำลังพัฒนาเรื่องของขั้นตอนการรับหลักฐานโดยประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับการปฏิบัติงานรับหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยที่ไม่ต้องมายืนยันตัวตนด้วยตนเอง แต่ขณะนี้การยืนยันหลักฐานด้วยตนเองเพื่อขอรับเงิน ก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะป้องกันเรื่องของการสวมตัว สวมสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ยื่นเรื่องอยู่ที่ประมาณกว่า 40,000 น ดังนั้นกระบวนการในการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาจึงอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะได้รับเงิน
ส่วนเรื่องเพดานเงินชดเชยเยียวยาของกรมบัญชีกลางที่มีเพดานการจ่ายเงินในอัตราต่างๆ โดยเทียบราคาจากวัสดุตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางมีตั้งไว้ เนื่องจากภาครัฐมีอัตราราคาของวัสดุที่มีราคากลางที่ชัดเจน ซึ่งจำนวนเงินอาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน เนื่องจากอาจจะเห็นว่าไม่เหมาะสมกับความเสียหาย ก็ต้องขอเวลาเพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถยืดหยุ่นตรงส่วนใดได้มากกว่านี้บ้าง นอกจากนี้เนื่องจากเป็นการชดเชยจากทางภาครัฐ ผู้ที่ทำประกันอาคารไว้ยังสามารถเคลมประกันจากทางบริษัทประกันและนิติบุคคลได้อีกทางด้วยเช่นกัน
อ่านข่าว : เคลื่อนร่าง 6 ตร. ไปวัดตรีทศเทพฯ พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.