ชาวจังหวัดลำพูน ทยอยเดินทางไปรับน้ำนมดิบกว่า 30 ตัน ที่สหกรณ์การเกษตรแม่ทา อ.แม่ทา จ.ลำพูน หลังทางสหกรณ์ฯ ประกาศแจกน้ำนมดิบฟรี เพื่อนำไปทำปุ๋ยและใช้สำหรับบำรุงพืชผลทางการเกษตร

น.ส.นิตยา อ้ายกอน ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรแม่ทา จำกัด เปิดเผยว่า นมดังกล่าวเป็นนมที่ส่งไปขายนอกพื้นที่ต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าประมาณ 6 แสนบาท แต่ไม่สามารถตกลงเงื่อนไขกันได้ เพราะสหกรณ์เสียเปรียบ ผู้บริหารจึงตัดสินใจไม่ขาย และนำนมทั้งหมดกลับ และด้วยผ่านมาหลายวันน้ำนมเริ่มจะเสียไม่สามารถใช้บริโภคได้ จึงประกาศให้ชาวบ้านมารับไปทำปุ๋ย

ขณะนี้ สหกรณ์การเกษตรแม่ทา จำกัด ประสบปัญหาหนัก เพราะถูกบริษัทที่ทำบันทึกข้อตกลง หยุดรับซื้อน้ำนมดิบวันละ 7 ตัน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องประกาศหยุดรับซื้อน้ำนม จากสมาชิกผู้เลี้ยงวัวนมของสหกรณ์จำนวน 30 ราย ในวันที่ 29 เม.ย.2568 เป็นต้นไป
เพราะที่ผ่านมาได้ใช้เงินของสหกรณ์อุดหนุนช่วยเหลือไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท และยังมีน้ำนมค้างอยู่ในสต๊อกกว่า 60 ตัน ล่าสุด มีบริษัทเอกชนยื่นมือให้ความช่วยเหลือแล้ว

การหยุดรับซื้อนมจากชาวบ้าน ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงได้รับผลกระทบทันที เพราะนมต้องรีดทุกวัน และไม่รู้จะนำนมไปขายที่ไหน ที่ผ่านมาเคยประท้วงเรียกร้อง พร้อมเทนมทิ้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนในการช่วยเหลือ สิ่งที่กังวลคือภาระหนี้สินที่ตามมา

ล่าสุด นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากบริษัทเอกชน 4 แห่ง ที่แปรรูปนมวัว ให้เข้ามาช่วยเหลือ รับซื้อน้ำนมของเกษตรกรใน อ.แม่ทา ซึ่งมีจำนวนวันละ 7 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
พร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รับซื้อนมไปกินหรือแปรรูป แต่กลุ่มเกษตรกรยังกังวล โดยเฉพาะเงินที่จะนมาใช้จ่ายดูแลครอบครัวและวัว รวมถึงหนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุน
รายงาน : เกษม แซ่กือ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ