วันที่ 28 ก.พ.2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ความมั่นคงของมนุษย์” พร้อมมอบนโยบาย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติด้านการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ความมั่นคงของมนุษย์
ภายใต้โครงการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายการคุ้มครองทางสังคมที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Responsive Social Protection : CRSP) โดยความร่วมมือของ กระทรวง พม. กับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) มี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ดร.วิจารณ์ สิมะฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในงาน

นายวราวุธ กล่าวว่า การจัดอันดับดัชนีความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ ปี 2568 (Climate Risk Index 2025) โดย German Watch ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 30 ประเทศเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ชัดเจนขึ้น ทั้งพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง และอุณหภูมิที่ผันแปร สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงเกิดการย้ายถิ่นฐาน
นอกจากนี้ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC) ก่อตั้งโดยองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ยังพบว่า สภาวะสุดขั้วของลมฟ้าอากาศ มีแนวโน้มที่จะเกิดบ่อยครั้งขึ้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลก

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นับเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงของมนุษย์โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่มีข้อจำกัดในการปรับตัว (Adaptive Capacity) ได้แก่ 1.กลุ่มเด็ก ซึ่งกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า เมื่อปี 2564 ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 50 จาก 163 ประเทศ ที่เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบ
2.กลุ่มผู้สูงอายุและคนพิการ มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหวและสุขภาพส่งผลให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเมื่อเกิดภัยพิบัติ และเป็นกลุ่มเปราะบางมีสัดส่วนสูงสุดที่จะได้รับผลกระทบ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตประชากรที่เด็กเกิดน้อย วัยทำงานขาดแคลน แต่ผู้สูงอายุจำนวนมากต้องการการดูแล
3.กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขาดแคลนในทุกมิติ อาทิ ทรัพยากรทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถย้ายที่อยู่อาศัยไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีคุณภาพ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากมีศักยภาพในการรับมือน้อย

สำหรับแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand’s National Adaptation Plan : NAP) ประกอบด้วยสาขาหลัก 6 สาขา ได้แก่ 1) การจัดการน้ำ 2) การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร 3) การท่องเที่ยว 4) สาธารณสุข 5) การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และ 6) การตั้งถิ่นฐานและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวง พม. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องในสาขาการตั้งถิ่นฐาน และความมั่นคงของมนุษย์ และให้ความสำคัญในเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ มีการจัดตั้งกลไกในการดูแลกลุ่มคนเปราะบางจากภัยพิบัติที่มีชื่อว่า “ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) หรือ Disaster Care Center for the Vulnerable : DCCV” ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเริ่มนำร่องใน 14 จังหวัดภาคใต้ และภาคเหนือ

เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือ ปรับตัว และการให้ความช่วยเหลือดูแลเยียวยากลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ การให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ อาทิ ภาคใต้ มีการสั่งการผ่านระบบปฏิบัติการออนไลน์ (Online Operation System : OOS)
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา กระทรวง พม. ยังได้ร่วมลงนาม MOU การดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สำหรับการดำเนินงานของกระทรวง พม. ในระยะต่อไปนั้น มีการออกแบบระบบที่สนับสนุนให้กลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงระบบความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม การยกระดับการคุ้มครองทางสังคม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงที่อยู่อาศัย การสร้างความตระหนักรู้ให้แก่กลุ่มเปราะบางเข้าใจถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถปรับต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังได้มีความร่วมมือกับ ธนาคารโลก (World Bank)
ซึ่งกระทรวง พม. ขับเคลื่อนงานด้านมิติทางสังคมของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Social Dimensions of Climate Change) เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางให้สามารถรับมือและปรับตัวได้ต่อสถานการณ์ต่าง ๆ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยการดำเนินงานที่สำคัญคือ การจัดทำแผนที่ภัยพิบัติ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) แผนที่ภัยพิบัติ และการบูรณาการข้อมูล 2) การคำนวณมูลค่าผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง 3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4) การจัดทำแผนปฏิบัติการในพื้นที่ภัยพิบัติศึกษาแผนปฏิบัติการของจังหวัดกับท้องถิ่น และ 5) การเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร พม.
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีนโยบายระยะยาวสำหรับการดูแลกลุ่มเปราะบาง ไม่เฉพาะแต่กรณีที่เกิดเหตุขึ้นฉับพลัน ในลักษณะภัยพิบัติเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุการณ์ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น (Slow Onset Events) เช่น อุณหภูมิค่อย ๆ สูงขึ้น หรือระดับน้ำทะเลค่อย ๆ ยกระดับขึ้น หรือสภาพอากาศร้อน หนาว ฝน แล้ง ค่อย ๆ ปรับรูปแบบ หรือค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น

โดยการยกระดับการคุ้มครองทางสังคมผ่านกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างขึ้นใหม่ เช่น การปฏิบัติงานของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรือผู้บริบาลผู้สูงอายุ หรือหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. (สถาน - บ้าน - นิคม) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงที่อยู่อาศัย ที่สนับสนุนให้กลุ่มเปราะบางสามารถรับมือและปรับตัวได้
และการคิดค้นวิธีการรับมือและสร้างความตระหนักรู้ให้กับกลุ่มเปราะบาง อาทิ การพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ AI เข้ามาช่วย ซึ่งสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ได้นำกลไกของห้องปฏิบัติการนโยบาย (Policy Lab) เข้ามาช่วย ทำให้แนวทางในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
อ่านข่าว : สำรวจ "เมืองโอร์เสม็ด" ถูกจับตา อาจเป็นฐาน "คอลเซนเตอร์แห่งใหม่" ชายแดนไทย
กทม.ติดกล้อง CCTV เพิ่มแยกราชประสงค์ - ตร.เข้มศาลท้าวมหาพรหม