ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไร้เงาทรัมป์! ผู้นำโลกร่วมแสดงจุดยืนหนุนยูเครน สงครามครบ 3 ปี

ต่างประเทศ
24 ก.พ. 68
19:59
271
Logo Thai PBS
ไร้เงาทรัมป์! ผู้นำโลกร่วมแสดงจุดยืนหนุนยูเครน สงครามครบ 3 ปี
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ครบ 3 ปีเต็มแล้วในวันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่โลกกำลังจับตามองท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ที่พลิกขั้วออกโรงเข้าข้างรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้มีคนจำนวนไม่น้อย ตั้งคำถามว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ลืมภาพความสูญเสียในยูเครนไปแล้วหรืออย่างไร

วันนี้ (24 ก.พ.2568) เชื่อว่าภาพความโหดร้ายในสงครามยังติดตาใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับผู้นำสหรัฐฯ แล้ว อาจจะนำความขัดแย้งไปโยงกับความคุ้มค่าของเม็ดเงินที่สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนไป มากกว่าการมองไปที่เรื่องของความสูญเสียชีวิตผู้คน หรือแม้กระทั่งประชาธิปไตย

ถ้าพูดถึงสิ่งที่ยูเครนต้องเผชิญตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เกิดความสูญเสียขึ้นแทบจะทุกมิติ ซึ่งแม้จะมีสัญญาณว่าสงครามอาจจะจบลงได้ในอีกไม่นานจากนี้ไป แต่อนาคตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็ดูจะไม่เป็นผลดีกับยูเครนสักเท่าไร

ขณะที่บรรยากาศวันนี้โลกยังได้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของบรรดาผู้นำโลกตะวันตกที่รวมตัวกันแสดงจุดยืนหนุนหลังยูเครนต่อ ในช่วงเวลาที่กำลังก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 4 แบบไร้เงาประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ผู้นำตะวันตกประชุมสุดยอด 3 ปี สงครามยูเครน ไร้เงาทรัมป์

นายกฯ แคนาดา ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้นำไอซ์แลนด์และประเทศอื่นๆ จากทั่วยุโรปและแถบนอร์ดิก จับมือทักทาย โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ปธน.ยูเครน ก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเคียฟ เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีสงคราม หลังจากบรรดาผู้นำทยอยเดินทางถึงกรุงเคียฟของยูเครนตลอดทั้งวันที่ผ่านมา

เป็นอีกครั้งที่ผู้นำโลกตะวันตกพร้อมใจกันไปปรากฏตัวที่เมืองหลวงของประเทศที่อยู่ภายใต้ภาวะสงครามแห่งนี้ เพื่อแสดงพลังสนับสนุน ท่ามกลางจุดยืนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของสหรัฐฯ มหาอำนาจที่สนับสนุนงบประมาณยูเครน ทั้งทางการทหาร มนุษยธรรมและการเงิน คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด

โดยสหรัฐฯ ให้เงินช่วยเหลือยูเครนถึงร้อยละ 47 ซึ่งตลอดช่วง 3 ปี มีอย่างน้อย 42 ประเทศทั่วโลก ที่ร่วมจัดสรรความช่วยเหลือให้ยูเครน คิดเป็นมูลค่ารวม 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่มาในรูปแบบความช่วยเหลือทางการทหาร ทั้งยุทโธปกรณ์และการฝึกกำลังพล

สงคราม 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้พลเรือนยูเครนเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 12,000 คน บาดเจ็บอีกกว่า 29,000 คน นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.2565 - 11 ก.พ.2568

ขณะที่ชาวยูเครนอีกกว่า 10.2 ล้านคน ต้องพลัดถิ่น ส่วนความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งก่อสร้างจำพวกที่อยู่อาศัย นับจนถึงต้นปี 2567 คิดเป็นมูลค่ารวมถึงกว่า 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สงครามส่งผลยูเครนเงินเฟ้อร้อยละ 12

นอกจากเมืองต่าง ๆ ที่พังเสียหายจนไม่เหลือเค้าเดิม ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมาจากสงคราม ทั้งในระดับโลกและพื้นที่สงครามเอง หนีไม่พ้นเงินเฟ้อ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศคู่ขัดแย้ง เผชิญสถานการณ์ไม่ต่างกัน โดยอัตราเงินเฟ้อในรัสเซียปีที่แล้ว อยู่ที่ร้อยละ 9.5 ขณะที่ยูเครนแตะระดับร้อยละ 12

เหตุผลที่ยูเครนข้าวของแพงกว่า ทั้งที่รัสเซียเผชิญมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากทั่วโลก เป็นเพราะผลพวงโดยตรงจากสงคราม ซึ่งทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเสียหาย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยปลายปีที่แล้วราคาไฟฟ้าในยูเครนพุ่งสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 63.6 ราคาอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มร้อยละ 14.1 ส่วนราคาสินค้าจำพวกผัก แพงขึ้นถึงร้อยละ 48.3

การเปิดฉากรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้เศรษฐกิจยูเครนดิ่งเหวในปีแรกของสงคราม จีดีพีติดลบถึงร้อยละ 28.8 ก่อนจะกลับขึ้นมาโตได้ร้อยละ 5 อีกครั้งในปีถัดมา แม้ว่าการเติบโตในปีล่าสุดนี้จะชะลอตัวลงบ้างก็ตาม

ขณะเดียวกันรัสเซียกลับไม่ได้เจ็บหนักเท่า เพราะแม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในปีแรก แต่ปีถัดมาก็เริ่มฟื้นตัวและในภาพรวม รัสเซียต้องเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าจำเป็นต่างๆ ป้อนให้แก่การทำสงคราม ทำให้อุตสาหกรรมการทหารขยายตัวต่อเนื่อง โดยปี 2566 มีอัตราการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.5 เทียบกับร้อยละ 0.6 ในปีก่อนหน้า

อนาคตไม่แน่นอน ขวางฟื้นฟูยูเครน

ขณะที่รายรับจากการขายเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติก็เปิดโอกาสให้รัสเซียได้ลืมตาอ้าปากตลอดช่วงที่เจอมาตรการคว่ำบาตรกว่า 3 ปีนี้ โดยคาดว่ารัสเซียมีรายได้จากการขายเชื้อเพลิงฟอสซิลกว่า 875,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ 24 ก.พ.2565 - 30 ม.ค.2568 โดยมี จีน อินเดีย ตุรกี เป็นผู้ซื้อรายสำคัญ ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมรายได้จากการขายแร่หลายอย่าง ทั้งนิกเกิลและแพลตตินัม ที่ไม่มีตัวเลขสถิติชัดเจน

อีกด้านหนึ่งนักวิเคราะห์เศรษฐกิจมองว่าแม้ว่ายูเครนจะมีทรัพยากรแร่ธาตุมูลค่านับสิบล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้จากการลงทุนสารพัดรูปแบบในช่วงทศวรรษหลังจากสิ้นสุดสงคราม

แต่หากสงครามครั้งนี้ยุติลง ด้วยข้อตกลงที่ไร้การรับประกันความมั่นคงให้ยูเครนในอนาคต อย่างที่ ปธน.สหรัฐฯ กำลังพยายามมัดมือชก จนมีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งครั้งใหม่อาจปะทุขึ้นได้ ก็อาจจะเป็นอุปสรรคที่ลดทอนความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุน และอาจจะทำให้เม็ดเงินจากการลงทุนที่จะมีส่วนช่วยฟื้นเศรษฐกิจยูเครนในอนาคตลดลงด้วยเช่นกัน

เวลานี้ถ้าดูท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ที่หันไปหนุนหลังรัสเซียและมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับรัสเซียแล้ว อาจจะกลับกลายไปเป็นสัญญาณบวกสำหรับเศรษฐกิจรัสเซียในอนาคตอันใกล้แทน ล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียประกาศว่าจะยุติการสู้รบ ก็ต่อเมื่อการเจรจาได้ผลลัพธ์อันมั่นคงและยั่งยืน บนเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียเท่านั้น ทำให้ต้องหันมาจับตาการหารือระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่จะจัดขึ้นอีกรอบในสัปดาห์นี้ว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร

อ่านข่าวอื่น :

รัสเซียส่งโดรนถล่มยูเครนครั้งใหญ่ ก่อนครบรอบ 3 ปีสงคราม

ยังไม่ส่งตัวคนไทยกลับ ตร.กัมพูชาสอบสวนหลังทลายคอลเซนเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง