ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

AI ไม่ช่วย! นักวิจัยเตือน ความเหงา ทำลายสุขภาพเหมือนเหล้า-บุหรี่

ไลฟ์สไตล์
31 ม.ค. 68
20:38
90
Logo Thai PBS
AI ไม่ช่วย! นักวิจัยเตือน ความเหงา ทำลายสุขภาพเหมือนเหล้า-บุหรี่
ความเหงาอันตรายกว่าที่คิด! นักวิจัยเผยผลกระทบความโดดเดี่ยวในยุคดิจิทัล อันตรายเทียบเท่ากับสูบบุหรี่ 15 มวน หรือดื่มแอลกอฮอล์ 6 แก้ว/วัน สสส.ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย ยกระดับสุขภาวะทางปัญญา พร้อมใช้ AI เป็นเครื่องมือบริหารความเครียดและฟื้นฟูจิตใจ

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านหน้าจอ ความเหงากลับกลายเป็นโรคระบาดเงียบที่กัดกินจิตใจมนุษย์โดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเปรียบเทียบว่าความเหงาส่งผลเสียต่อสุขภาพพอ ๆ กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน หรือดื่มแอลกอฮอล์วันละ 6 แก้ว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตือนว่า ผู้คนใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้น แต่สื่อสารกับครอบครัวและคนรอบข้างน้อยลง จนนำไปสู่ปัญหาทางใจที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

โซเชียลเชื่อมโลก แต่ขาดการเชื่อมใจ

วันนี้ (31 ม.ค.2568) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ สสส. ร่วมกับศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา มหาวิทยาลัยมหิดล และองค์กรพันธมิตร 7 แห่ง ได้จัดประชุม "Complete Well-being in the Age of AI" ในการประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (PMAC 2025) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหารือถึงผลกระทบของความเหงาและการขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงบทบาทของ AI ในการช่วยบรรเทาปัญหานี้

มนุษย์ในโลกดิจิทัล ยิ่งคลิก ยิ่งห่างไกล

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ระบุว่า การใช้เวลากับโซเชียลมีเดียอย่างหนัก ทำให้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงในครอบครัวและชุมชนลดลง งานวิจัยของ J. Holt-Lunstad และคณะ ที่เผยแพร่ในวารสาร PLOS Medicine พบว่า การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีผลกระทบต่อสุขภาพไม่ต่างจากการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะขาดการเชื่อมโยง (Lack of Social Connection) ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย

AI ช่วยคลายเหงาได้จริงหรือ ?

แม้ AI จะถูกพัฒนาให้ช่วยตรวจจับอารมณ์ ให้คำปรึกษาเบื้องต้น และพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพจิต แต่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ การพูดคุยกับเพื่อนแท้ การสัมผัสความอบอุ่นจากคนรอบข้าง และการสร้างความผูกพันในชีวิตจริง เป็นสิ่งที่ไม่มีอัลกอริธึมไหนจำลองขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ ดร.เฟรดริก ลินเดนโครนา จากสวีเดน ย้ำว่า การพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่ามากกว่าการพึ่งพาเทคโนโลยี

โซเชียลทำให้ใกล้กัน หรือคิดว่าใกล้กัน ?

ดร.กาบอร์ การ์ไซ แห่ง Mind and Life Europe ชี้ว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญ "Polycrisis" หรือวิกฤตที่เกิดจากหลายปัจจัยผสมกัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความไม่มั่นคงทางจิตใจ และภาวะโลกร้อน หากปราศจากสุขภาวะทางปัญญาที่ดี มนุษย์อาจไม่สามารถรับมือกับความซับซ้อนเหล่านี้ได้ ความเชื่อมโยงทางดิจิทัลที่ไร้หัวใจ อาจทำให้มนุษย์รู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าที่เคย

เราจะหลุดจากวงจรความเหงาได้อย่างไร ?

น.ส. อวยพร เขื่อนแก้ว ผู้ก่อตั้งศูนย์ผู้หญิงเพื่อสันติภาพและความเป็นธรรม กล่าวว่า สุขภาวะทางปัญญาเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสมดุลทางใจ ในโลกที่ผู้คนหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มช่องว่างของความสัมพันธ์ การกลับมาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริง การสนทนากับครอบครัว และการสร้างเครือข่ายทางสังคมที่มีคุณค่า เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากวงจรความเหงาได้อย่างแท้จริง

ท้ายที่สุดแล้ว โซเชียลอาจไม่ได้ทำให้เราหายเหงา แต่เป็นตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกเหงามากกว่าเดิมหรือไม่ ? คำตอบขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร

อ่านข่าวอื่น :

สธ.แจงความปลอดภัยวัคซีน HPV ยังไม่มีรายงานเรียกคืน

ผลวิจัยชี้ "ฝุ่นจิ๋ว" เพิ่มอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 8%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง