เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี ลงพื้นที่ชิงเผาบนพื้นที่ตรวจยึดคดีบุกรุกเก่า 600 ไร่ กลางป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งจุดนี้เรียกว่า "ผาเม่น" ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนเกิดการตั้งคำถามว่าท่ามกลางสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ เหตุใดเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงดำเนินการเผาป่าสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ห้ามเผา
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน ไม่ได้เป็นไปตามหลักปฎิบัติ จึงสั่งหยุดไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงนี้กรุงเทพฯ มีปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 สูง พร้อมกำชับว่าควรชิงเผาในช่วงที่ฝุ่นเบาบาง ไม่ควรเผาแปลงใหญ่ และปฏิบัติการชิงเผาควรทำเป็นหย่อม ๆ
ขณะที่นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ชี้แจงว่า จุดดังกล่าวมีสภาพพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าที่เคยตรวจยึดและมีการดำเนินคดีแล้ว พิกัดอยู่ลึกเข้าไปเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่เรียกว่าหญ้าคอมมิวนิสต์ ปกคลุมเป็นหย่อม ๆ เนื้อที่รวม 600 ไร่
หญ้าชนิดนี้ทนแล้งได้ดี แต่ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นอาหารสัตว์ป่า เพราะเมื่อหญ้าแก่ขึ้น ช้างป่าและสัตว์ป่าจะไม่กิน มีคุณค่าทางอาหารต่ำ
หญ้าคอมมิวนิสต์ทนแล้งได้ดี แต่คุณสมบัติในการเป็นอาหารของสัตว์ป่าต่ำมาก เป็นทุ่งหญ้าที่ถูกทิ้งเอาไว้ รอเวลาเป็นเชื้อเพลิงใหญ่เท่านั้นเอง
อุทยานฯ ทับลาน ได้วางแผนเพื่อให้หญ้าระบัดใหม่ (หญ้าอ่อนเกิดขึ้นใหม่) เป็นการใช้ไฟในการจัดการทุ่งหญ้า และเป็นวิธีการจัดการตามทฤษฎี
การจัดการแหล่งอาหารเป็นหนึ่งใน 6 มาตรการที่ใช้แก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ เพราะเมื่อหญ้าเกิดขึ้นใหม่แล้วก็จะดึงช้างป่าที่เป็นปัญหาอยู่ในชุมชนรอบป่ากลับเข้ามาในป่า โดยการเผาแบ่งทีละแปลงย่อยครั้งละ 30-100 ไร่ เพื่อให้มีความร้อนน้อยและลดปริมาณควัน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในช่วงบ่ายที่มีปริมาณฝุ่นในชั้นบรรยากาศน้อย อากาศปลอดโปร่ง และได้แจ้งข้อมูลเพื่อขออนุญาตจัดการเชื้อเพลิงทางแอปพลิเคชัน Burn Check พร้อมส่งแบบฟอร์ม เพื่อขออนุญาตตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.ทุ่งโพธิ์ และ ต.แก่งดินสอ พบปัญหาช้างป่าค่อนข้างมาก และทำลายสิ่งของชาวบ้าน เชื่อว่าการจัดการทุ่งหญ้าจะช่วยให้ช้างกลับเข้าป่าลึกได้
ปัญหาช้างป่าสาหัสขึ้นเรื่อย ๆ อาจไม่มากเท่าเขาอ่างฤาไน แต่ทับลานต้องเร่งทำเพื่อไม่ให้ช้างป่าออกไปข้างนอก หรือเกิดความสูญเสีย
ไฟไหม้ป่าภูลำไย ยังเข้าดับไม่ได้ เหตุเสี่ยงระเบิด
ขณะที่สถานการณ์ไฟไหม้ป่า บริเวณสนามเป้า บนเขาภูลำไย ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างพื้นที่ตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี และ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ม.ค.) พบว่าไฟได้เริ่มลุกไหม้และมีกลุ่มควันอย่างเห็นได้ชัดเมื่อประมาณช่วง 12.00 น. ก่อนจะลุกลามเป็นวงกว้างหลายกิโลเมตร และยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลากลางคืน
มีรายงานว่าจุดที่เกิดไฟไหม้ป่า เป็นภูเขาลูกเดียวกันกับสนามฝึกยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 2 (ภูลำไย) ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการฝึก ทำให้ยังไม่ส่งกำลังเข้าไปดับไฟป่าได้ เพราะยังไม่พิสูจน์ทราบได้ว่าจะยังมีวัตถุอันตรายอย่างกระสุนปืนจากการฝึกหลงเหลืออยู่ในพื้นที่หรือไม่
น.ส.จุฬาลักษณ์ เทียรกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านมาบพิมาน ต.ครบุรีใต้ บอกว่า จุดที่เกิดไฟไหม้ป่า เป็นจุดที่ทางทหารใช้ในการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ และมักจะเกิดเหตุไฟป่าขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในวงจำกัด ไม่ได้ลุกลามออกมาถึงพื้นที่การเกษตรหรือบ้านเรือนของชาวบ้าน เพราะแหล่งชุมชนอยู่หากจากเขาลูกนี้ 4-5 กิโลเมตร
ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้ข้อมูลว่า พื้นที่เขาภูลำไยนั้น ส่วนหนึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติทับลาน และส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 2 ใช้ในการฝึกซ้อมทางยุทธวิธี ซึ่งจะมีการใช้กระสุนปืนใหญ่อยู่เป็นประจำ ทำให้เป็นพื้นที่เสี่ยง และอาจมีวัตถุระเบิดในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำแนวกันไฟไว้ก่อนในระดับหนึ่ง และวันนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จะสนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาวิธีควบคุมสถานการณ์เป็นการเร่งด่วน
อ่านข่าว : กทม.จมฝุ่น PM2.5 พีคสีแดง 48 เขต หนักสุดหนองแขม
สพฐ.ไฟเขียว ผอ.รร.สั่งปิดเรียนได้ทันที พื้นที่ฝุ่น PM 2.5 พีคสีแดง
วันนี้ 60 จว.ฝุ่นเกินมาตรฐาน คาด 1-2 วันข้างหน้าแนวโน้มฝุ่นเพิ่มขึ้น