เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2567 วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงข่าวทางโทรทัศน์ตอบคำถามประชาชนและสื่อมวลชนเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่ผู้นำรัสเซียจะเปิดเวทีให้ประชาชนซักถามก่อนสิ้นปี ในรายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ชื่อรายการว่า Results of the Year with Vladimir Putin หรือเป็นเสมือนการรายงานผลงานประจำปีของผู้นำรัสเซีย
น่าจะเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบให้เร็วกว่านี้ และน่าจะเตรียมการอย่างเป็นระบบมากกว่านี้
คำกล่าวของปูตินต่อปฏิบัติการพิเศษทางการทหารที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานดินแดนยูเครน เมื่อปลายเดือน ก.พ.2022 ซึ่งเป็นท่าทีส่วนหนึ่งที่ผู้นำรัสเซียแสดงออกเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะครบรอบ 3 ปี ในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า เมื่อเขาถูกถามว่าหากย้อนเวลากลับไปในเดือน ก.พ.2022 ได้
หน่วยงานของรัฐบาลรัสเซียเผยแพร่ภาพ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียแถลงข่าวส่งท้ายปีในมอสโก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2024
หน่วยงานของรัฐบาลรัสเซียเผยแพร่ภาพ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียแถลงข่าวส่งท้ายปีในมอสโก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2024
นอกจากนี้ ปูติน ระบุว่าสถานการณ์สงครามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รัสเซียรุกคืบและยึดพื้นที่เพิ่มขึ้นได้ทุกวันและใกล้จะพิชิตเป้าหมายเริ่มแรกของปฏิบัติพิเศษทางการทหารครั้งนี้แล้ว แต่เมื่อเจอคำถามจากประชาชนที่มีภูมิลำเนาในภูมิภาคคูร์สค์ ว่า จะกลับบ้านได้เมื่อไร ปูตินถึงกับต้องยอมรับว่ายังให้คำตอบเป็นกรอบเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ว่ารัสเซียจะยึดภูมิภาคคูร์สค์คืนมาได้ตอนไหน
อีกประเด็นที่ปูตินถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้นำรัสเซียระบุว่าไม่ได้พูดคุยกับทรัมป์มานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่พร้อมจะหารือกับทรัมป์ทุกเมื่อ หรือพร้อมจะพบปะกันหากทรัมป์ต้องการ และมั่นใจว่าทั้งคู่จะมีเรื่องได้พูดคุยกันอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ประกาศตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งว่าจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนให้ได้อย่างรวดเร็วหากชนะเลือกตั้ง นำมาซึ่งความกังวลว่าทางลงของสงครามครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบใด
ขณะที่ปูติน กล่าวเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ว่า เปิดกว้างต่อการปรองดองเพื่อยุติสงคราม แม้จะไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการปรองดองที่ว่านั้นหมายถึงอะไร รวมถึงการพูดคุยกับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แม้ว่าการทำข้อตกลงใดๆ จะต้องลงนามโดยผู้มีอำนาจอันชอบธรรมของยูเครนเท่านั้นก็ตาม
วลาดิมีร์ ปูติน แถลงข่าวส่งท้ายปี โดยช่วงหนึ่งเจ้าหน้าที่ถือธงกองพลทหารของกองทัพเรือรัสเซียที่ด้านหลังของผู้นำรัสเซีย
วลาดิมีร์ ปูติน แถลงข่าวส่งท้ายปี โดยช่วงหนึ่งเจ้าหน้าที่ถือธงกองพลทหารของกองทัพเรือรัสเซียที่ด้านหลังของผู้นำรัสเซีย
ไม่ว่าอย่างไร การยุติสงครามน่าจะเป็นความหวังทั้งของชาวรัสเซีย หรือแม้แต่ปูตินเอง เพราะในการแถลงครั้งนี้ผู้นำรัสเซียยอมรับว่าปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันส่งสัญญาณน่าวิตก พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจรัสเซียกำลังอยู่ในสภาวะที่เครื่องร้อนจนเกินไป
หากย้อนดูภาพรวมเศรษฐกิจรัสเซียตลอดช่วงสงคราม หนักหน่วงที่สุดอาจเป็นปีที่เปิดฉากการรบในปี 2022 ทั้งอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ติดลบ จากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ และแม้จะทยอยฟื้นคืนมาได้บ้าง แต่ปัจจุบันรัสเซียก็หนีไม่พ้นปัญหาข้าวยากหมากแพงไม่ต่างจากที่ทั่วโลกเผชิญ โดยปี 2024 อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างอยู่ที่ 9% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อไปไกลถึง 9.3%
ขณะนี้อาจต้องจับตาไปที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ว่าจะเข้ามาจบปัญหาสงครามที่กระทบไปทั้งโลกได้หรือไม่ หรือจะเดินหน้าไกล่เกลี่ยสงครามที่ยืดเยื้อนี้ในรูปแบบใด เพราะดูเหมือนว่าความสูญเสียในสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครนจะเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่สหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเลือกตั้งและได้ว่าที่ผู้นำคนใหม่เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเร่งมือห้ำหั่นกันหาแต้มต่อเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
อ่านข่าว
ยูเครนอ้างอยู่เบื้องหลังระเบิดสังหาร "นายพลรัสเซีย"
ศาลฝรั่งเศสสั่งจำคุกสามี 20 ปี "คดีวางยา-ข่มขืนหมู่" ภรรยาตัวเอง