วันนี้ (20 ก.ย.2567) เวลา 04.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่อง พายุ "ซูลิก" ฉบับที่ 12 (204/2567) พายุโซนร้อน “ซูลิก” บริเวณประเทศลาวได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางบริเวณแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยห่างจาก จ.นครพนม 100 กิโลเมตร ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดนครพนม ประมาณ 100 กิโลเมตร หรืออยู่ที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ทั้งนี้เมื่อเวลา 02.05 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ชี้แจงความคืบหน้าสถานการณ์พายุ "ซูลิก" โดย ว่าที่ ร.ต.ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา โดยระบุว่า
ศูนย์กลางพายุโซนร้อน "ซูลิก" เคลื่อนตัวเข้ามาอยู่ที่แขวงคำม่วน ประเทศลาว แล้วเมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.2567 ห่างจังหวัดนครพนม 100 กิโลเมตร และขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ แต่เมื่อเข้าสู่ประเทศไทยแล้วจะอ่อนกำลังลง เป็น ดีเปรสชัน
แนวทางการเคลื่อนตัวของพายุ จะอยู่แถว จ.นครพนม และ มุกดาหาร ผ่านแนวภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้มีฝนหนัก จ.บึงกาฬ, นครพนม, มุกดาหาร, สกลนคร, กาฬสินธุ์ และ บางส่วนของ จ.ร้อยเอ็ด, สุรินทร์, บุรีรัมย์, มหาสารคาม และ ขอนแก่น ส่วนตอนบนผลจากพายุจะเข้าสู่ จ.หนองคาย, อุดรธานี, ศรีสะเกษ
ในวันนี้ (20 ก.ย.) คาดว่า พายุจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ผ่าน จ.นครพนม และ มุกดาหาร เป็นหลัก จากนั้นจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเรื่อยๆ ในรูปของดีเปรสชัน จนถึงตอนกลางของไทย จึงอ่อนกำลังลงอีก และคาดว่าจะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุม
นครพนม-มุกดาหาร ฝนตกหนัก
สำหรับ จ.นครพนม ที่ฝนตกตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวาน (19 ก.ย.) จนถึงข้ามคืนที่ผ่านมา ถือเป็นส่วนหน้า หรือ ส่วนหัวของ พายุซูลิก ที่เคลื่อนมาถึงแล้ว แต่ส่วนผลที่จะเจอเต็มๆ คาดว่า จะอยู่ในช่วง 7 โมงเช้าวันนี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ นครพนม และ มุกดาหาร เจอสถานการณ์ ฝนตกหนักมากขึ้น รวมถึงเป็นลักษณะการตกแช่เอื่อย และอยู่กับที่นานขึ้น ซึ่งคาดว่าหางของพายุจะผ่านพ้นออกจาก จ.นครพนม ช่วงค่ำวันนี้
ส่วนภาคอื่น มีผลกระทบประปราย แต่ยังไม่ใช่ผลกระทบโดยตรง เป็นหางๆ พายุ โดยที่ภาคเหนือ จะมีผลที่ จ.น่าน, ลำพูน, เชียงใหม่, ลำปาง ไปทาง อุตรดิตถ์ เข้าสู่สุโขทัย และรวมถึงกรุงเทพมหานคร
แต่ในส่วนของภาคใต้ที่มีฝนตก เกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมที่มีกำลังแรง รวมถึงภาคตะวันออกด้วย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิง และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน หรือแม่น้ำ และพื้นที่ลุ่ม และขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศ จากศูนย์อุตนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด
ไทม์ไลน์ "ซูลิก" ปกคลุมบริเวณภาคอีสาน
ช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.2567 พายุดีเปรสชันซูลิก ปกคลุมบริเวณภาคอีสาน และ สปป.ลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป ประกอบกับมรสุมมีกำลังแรง ทำให้ภาคอีสานมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง และหนักถึงหนักมากทางตอนบนของภาคอีสานส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ยังต้องติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ต้องเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณภาคอีสาน ทำให้ยังมีฝนตกหนักและต่อเนื่องทางตอนบนของภาค (นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู) และด้านรับมรสุม โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอันดามันต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ส่วนช่วง 22 - 26 ก.ย.2567 ร่องมรสุมได้สวิงเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ฝนยังเกิดขึ้นได้ใกล้ร่องมรสุม ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสม
วันที่ 27 - 29 ก.ย.2567 บริเวณประเทศไทยมีแนวโน้มฝนน้อยลง ยังมีฝนบางแห่งส่วนมากเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
อ่านข่าว :
สภาพอากาศวันนี้ เช็ก 54 จว.ฝนตกหนักถึงหนักมาก กทม.มีฝน 60%
