กิตติภัทร แก้วเจริญ
รับบท นที
พลวิชญ์ เกตุประภากร
รับบท ภราดร
นัฐรุจี วิศวนารถ
รับบท ซอแก้ว
นิรุตติ์ ศิริจรรยา
รับบท อารักษ์
สมภพ เบญจาทิกุล
รับบท บริพัตร
รัดเกล้า อามระดิษ
รับบท บุหงา
ภารดี วงษ์สวัสดิ์
รับบท ศิริรัตน์
ภูริต พลอยมีค่า
รับบท สินธร
นที เด็กหนุ่มวัย 27 กำลังตามหาความฝันที่อยากจะเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ เขาได้ชวน ภารดร เพื่อนสนิทวัยเดียวกันให้มาร่วมเขียนบทด้วยกัน นทีได้แรงบันดาลใจการเขียนบทมาจากบทกลอนที่แขวนเรียงรายอยู่ในร้านอาหารที่ชื่อ รถราง บทกลอนเหล่านี้เขียนขึ้นโดยเจ้าของร้านที่ชื่อ อารักษ์ เมื่อนทีได้ทำความรู้จักกับอารักษ์มากขึ้นก็ทำให้ล่วงรู้เรื่องราวส่วนตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกเขารับรู้ว่ารักแรกของอารักษ์นั้นเริ่มต้นขึ้นในวันที่รถรางวิ่งเป็นวันสุดท้าย บนรกรางเที่ยวสุดท้ายวันนั้น อารักษ์และเพื่อนสนิทที่ชื่อ บริพัตร และพวกเขาทั้งสองกลับตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกันที่ชื่อ มุกดา หลังจากวันนั้นเรื่องราวรักสามเส้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น
บทหนังที่เป็นรักสามเส้าเหมือนถูกทับซ้อนด้วยเรื่องจริงของนที ภราดร และ ซอแก้ว เพราะซอแก้วหลงรักนที และภารดรหลงรักซอแก้ว แต่นทีไม่ได้คิดกับซอแก้วอย่างแฟนสาว แม่ของซอแก้วชื่อ บุหงา เป็นแม่ครัวของร้านอาหารรถราง และเป็นเมียคนที่สองของอารักษ์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือพิธีแต่งงานแต่อย่างไร ซอแก้วไม่ชอบอารักษ์ และไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ เธอหาทางที่จะพาแม่ออกไปจากชีวิตของอารักษ์ตลอดเวลา รวมถึงการเปลี่ยนช่วงเวลาของร้านอาหารที่ก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นทับซ้อนกันระหว่างช่วงรอยต่อของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ทุกคนรอบตัวอารักษ์ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างร้านนี้ขึ้นมาใหม่ แต่อารักษ์ยังลังเลที่จะให้คนรุ่นลูก ๆ มีส่วนร่วมในการบูรณะร้านรถรางแห่งนี้
ทุกคนล้วนต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง อารักษ์ต้องยอมรับความจริง และยังต้องยอมรับด้วยว่าอดีตก็ไม่ได้มีแต่เรื่องงดงามอย่างที่อารักษ์ต้องการให้นทีและภราดรเขียนไว้ในบทภาพยนตร์
นที เด็กหนุ่มวัย 27 กำลังตามหาความฝันที่อยากจะเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ เขาได้ชวน ภารดร เพื่อนสนิทวัยเดียวกันให้มาร่วมเขียนบทด้วยกัน นทีได้แรงบันดาลใจการเขียนบทมาจากบทกลอนที่แขวนเรียงรายอยู่ในร้านอาหารที่ชื่อ รถราง บทกลอนเหล่านี้เขียนขึ้นโดยเจ้าของร้านที่ชื่อ อารักษ์ เมื่อนทีได้ทำความรู้จักกับอารักษ์มากขึ้นก็ทำให้ล่วงรู้เรื่องราวส่วนตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกเขารับรู้ว่ารักแรกของอารักษ์นั้นเริ่มต้นขึ้นในวันที่รถรางวิ่งเป็นวันสุดท้าย บนรกรางเที่ยวสุดท้ายวันนั้น อารักษ์และเพื่อนสนิทที่ชื่อ บริพัตร และพวกเขาทั้งสองกลับตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกันที่ชื่อ มุกดา หลังจากวันนั้นเรื่องราวรักสามเส้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น
บทหนังที่เป็นรักสามเส้าเหมือนถูกทับซ้อนด้วยเรื่องจริงของนที ภราดร และ ซอแก้ว เพราะซอแก้วหลงรักนที และภารดรหลงรักซอแก้ว แต่นทีไม่ได้คิดกับซอแก้วอย่างแฟนสาว แม่ของซอแก้วชื่อ บุหงา เป็นแม่ครัวของร้านอาหารรถราง และเป็นเมียคนที่สองของอารักษ์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือพิธีแต่งงานแต่อย่างไร ซอแก้วไม่ชอบอารักษ์ และไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ เธอหาทางที่จะพาแม่ออกไปจากชีวิตของอารักษ์ตลอดเวลา รวมถึงการเปลี่ยนช่วงเวลาของร้านอาหารที่ก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นทับซ้อนกันระหว่างช่วงรอยต่อของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ทุกคนรอบตัวอารักษ์ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างร้านนี้ขึ้นมาใหม่ แต่อารักษ์ยังลังเลที่จะให้คนรุ่นลูก ๆ มีส่วนร่วมในการบูรณะร้านรถรางแห่งนี้
ทุกคนล้วนต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง อารักษ์ต้องยอมรับความจริง และยังต้องยอมรับด้วยว่าอดีตก็ไม่ได้มีแต่เรื่องงดงามอย่างที่อารักษ์ต้องการให้นทีและภราดรเขียนไว้ในบทภาพยนตร์