รวม 5 สุดยอดโมเมนต์จาก “ดราก้อนบอล” ส่งท้าย “โทริยามะ อากิระ ” ผู้จากไปแต่แรงบันดาลใจยังคงอยู่


Lifestyle

8 มี.ค. 67

อธิเจต มงคลโสฬศ

Logo Thai PBS
แชร์

รวม 5 สุดยอดโมเมนต์จาก “ดราก้อนบอล” ส่งท้าย “โทริยามะ อากิระ ” ผู้จากไปแต่แรงบันดาลใจยังคงอยู่

https://www.thaipbs.or.th/now/content/904

รวม 5 สุดยอดโมเมนต์จาก “ดราก้อนบอล” ส่งท้าย “โทริยามะ อากิระ ” ผู้จากไปแต่แรงบันดาลใจยังคงอยู่
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

กลายเป็นเรื่องเศร้าของเหล่าแฟนการ์ตูน โดยเฉพาะคอการ์ตูนยุคเก่า เมื่อ “โทริยามะ อากิระ (Toriyama Akira)” ยอดนักเขียนคนหนึ่งแห่งยุคได้จากโลกนี้ไป ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา

ตลอดชีวิตการทำงาน เขาได้ฝากผลงานยอดเยี่ยมไว้มากมาย ทั้ง ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ การออกแบบตัวละครให้กับเกมชื่อดังอย่าง ดราก้อนเควส และสุดยอดผลงานที่มียังคงโด่งดังมาจนถึงปัจจุบันอย่าง “ดราก้อนบอล”

Thai PBS ร่วมส่งท้ายชวนรำลึกถึง 5 โมเมนต์สุดยิ่งใหญ่จากดราก้อนบอล ที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ ถึงวันนี้เรื่องราวของดราก้อนบอลที่ยังคงสร้างแรงบันดาลใจกับผู้คนทั่วโลก

ซูเปอร์ไซย่าครั้งแรก

แม้แรกเริ่ม “ดราก้อนบอล” จะเป็นการ์ตูนต่อสู้กึ่งการ์ตูนแก็กมีที่พล็อตล้อกับตำนานไซอิ๋วว่าด้วยการเดินทางตามหาดราก้อนบอล ของวิเศษภายในเรื่อง ทว่าความอัจฉริยะอย่างหนึ่งของโทริยามะ-ผู้เขียน คือการปรับเรื่องราวให้ดำเนินไปอย่างคาดเดาไม่ได้ เมื่อการต่อสู้ภายในเรื่องได้รับความนิยมมากขึ้น การต่อสู้อันเข้มข้นได้เพิ่มขึ้นอย่างจริงจังจนมาถึงจุดที่ “โงกุน” ตัวละครเอกของเรื่องสามารถปล่อยพลังกลายเป็นซูเปอร์ไซย่าได้เป็นครั้งแรก เป็นโมเมนต์แห่งการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมของตนเอง

สีผมที่เปลี่ยนเป็นสีทอง ทรงผมแหลมตั้ง รวมถึงท่าทางการเบ่งพลัง กลายเป็นสิ่งที่เด็กในยุคนั้นต้องเคยทำตามกันทุกคน เบื้องหลังการออกแบบสีผม โทริยามะเคยเผยไว้ว่า มาจากสไตล์การทำงานที่ต้องการให้ผลงานออกมาได้เร็วขึ้น สีผมเข้มจะทำให้ต้องถมสีดำ จึงออกแบบให้ร่างที่สื่อถึงพลังที่มากขึ้นนี้มีสีผมอ่อนลง จากนั้นเป็นต้นมา การเปลี่ยนร่างที่สื่อถึงความแข็งแกร่งที่มากขึ้นก็กลายเอกลักษณ์หนึ่งของการ์ตูนเรื่องนี้

ซูเปอร์ไซย่าครั้งแรก

พลังคลื่นเต่าพ่อ - ลูก

เรื่องราวในดราก้อนบอลดำเนินมาถึงช่วงที่การต่อสู้แบ่งเป็นภาคใหญ่ที่มีตัวร้ายหลัก มีการต่อสู้ที่เข้มข้นยาวนาน ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ทั้งยังคาดเดาไม่ได้ ดราก้อนบอลมีตัวละครมากมายที่ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องโลก หนึ่งในนั้นคือโกฮัง ลูกชายคนโตของโกคูที่เริ่มต้นจากการเป็นเด็กขี้แย เกลียดการต่อสู้ 

การต่อสู้สุดเข้มข้นดำเนินมาถึงจุดที่มีการสูญเสียเกิดขึ้นมากมาย ความหวังของคนทั่งโลกต้องมาฝากไว้กับเด็กคนหนึ่ง โมเมนต์สุดท้ายที่น่าจดจำคือการปลดปล่อยพลังคลื่นเต่าของโกฮัง ที่มีภาพโกคูผู้เป็นพ่อที่จากไป ยืนอยู่ข้างหลังร่วมปล่อยพลังด้วย สื่อความถึง แม้ว่าโกคูจะจากไปแล้ว แต่ก็ยังต่อสู้เคียงข้างลูกชาย กลายเป็นซีนที่หลายคนจดจำ

พลังคลื่นเต่าพ่อ - ลูก

บอลเกงกิบอลของทุกคน

ในการต่อสู้ส่งท้ายของภาคดราก้อนบอล Z ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคก่อน โลกต้องเผชิญกับจอมมารบู ตัวร้ายสุดแกร่งที่เหล่าตัวเอกของเรื่องทำทุกวิถีทางก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้

บทสรุปของเรื่องราวอันยาวนานนี้ โกคูได้ใช้ท่าไม้ตายหนึ่ง นั่นคือ “บอลเกงกิ” ที่รวบรวมพลังของทุกคนที่ชูมือขึ้นส่งพลังมาให้ เกิดเป็นบอลทรงกลมใหญ่และใช้ปราบจอมมารบูลงได้สำเร็จ แม้ดราก้อนบอลจะบอกเล่าการต่อสู้ สร้างแรงบันดาลใจในความพยายามผ่านการฝึกฝน ผ่านอุปสรรคมากมาย แต่บางครั้งอุปสรรคก็ใหญ่เกินกว่าจะผ่านไปคนเดียว และจำเป็นจะต้องใช้พลังของทุกคนร่วมด้วย

บอลเกงกิบอลของทุกคน

ก้าวสู่ร่าง Ultra Instinct (ชื่อไทย ร่างนำใจกายนำจิต)

ดราก้อนบอลมีช่วงเวลาที่ความนิยมลดลง แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่น่าจดจำจึงยังคงมีการผลิตผลงานที่เกี่ยวข้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกม ภาพยนตร์ทั้งฉบับการ์ตูนและคนแสดง ของเล่นของสะสม ภาคแยกต่าง ๆ จนถึงดราก้อนบอล ซูเปอร์ ในปี 2558 ที่สามารถสร้างกระแสนิยมของดราก้อนบอลให้กับกลับสู่ยุคใหม่ได้สำเร็จ กลายเป็นกระแสในอินเทอร์เน็ตที่มีผู้คนรวมตัวกันดูตอนจบของเรื่อง รวมถึงโมเมนต์ต่าง ๆ ที่ผู้คนเริ่มติดตามและพูดถึงกันมากขึ้น

โมเมนต์น่าจดจำนึงของภาคนี้คือการที่โกคูบรรลุถึงร่าง Ultra Instinct หรือชื่อไทยว่า “ร่างนำใจกายนำจิต” จากรูปโฉมที่ผ่านมา หลายร่างไซย่าของโกคูมักจะมีสีผมที่เปลี่ยนไป ทว่าร่างที่ทรงพลังนี้กลับเลือกที่จะให้ผมกลับมาเป็นสีดำ จากร่างที่มักมาพร้อมท่าโกรธขึงกลับคืนสู่ความสงบนิ่ง นำเสนอร่างใหม่แต่โฉมเดิมสู่ยุคใหม่ที่สร้างจุดสนใจได้อย่างโดดเด่น

ร่าง Ultra Instinct

การดวลบนเนินเขา สูงสุดคืนสู่สามัญ

ปิดท้ายภาคซูเปอร์ที่ส่งให้ดราก้อนบอลกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ซีนสุดท้ายของภาคนี้ หลังการต่อสู้ระดับพิทักษ์จักรวาลได้จบลง ซีนจบของเรื่องราวกลับเรียบง่าย เนินเขาสีคุ้นเคย มีชะง่อนผายื่นมาเผชิญหน้ากัน ร่างของ 2 นักรบที่ทุกคนผูกพันยืนประจันหน้า โกคู ตัวเอกของเรื่อง ตั้งท่าสู่กับ เบจิต้า ศัตรูคู่แค้นที่กลายเป็นมิตรแท้อันยาวนาน

โมเมนต์นี้ล้อกันกับฉากแรกที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน ตั้งท่าต่อสู้เดียวกันและจบเรื่องราว เป็นการบอกลาภาคดังกล่าวที่นำเสนอการต่อสู้ในระดับจักรวาล แต่ก็ไม่ลืมที่จะกลับมาสู่สิ่งสามัญที่กระทบใจผู้คนที่รับชม

การดวลบนเนินเขา
 

“ดราก้อนบอล” ถือเป็นการ์ตูนที่สร้างสีสันความบันเทิงให้กับเด็ก ๆ ยุค 90 และต่อเนื่องมาอีกหลายยุคหลายสมัย แม้การจากไปของ “โทริยามะ อากิระ” จะสรา้งความเสียใจต่อเหล่าแฟนการ์ตูนของเขาทั่วโลก แต่ทุก ๆ ผลงานของนักเขียนการ์ตูนคนนี้ จะคงอยู่ในใจของนักอ่านการ์ตูนตลอดไป…

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- สิ้นตำนาน "โทริยามะ อากิระ" เสียชีวิตอายุ 68 ปี เจ้าของผลงาน “Dragon Ball”

อ้างอิง
- 10 Iconic Dragon Ball Scenes That Everyone Will Remember
- Dragon Ball Z: The 15 All-Time Greatest Moments

ขอบคุณภาพประกอบจาก
- Toei Animation

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ดราก้อนบอลโทริยามะ อากิระอากิระ โทริยามะ
อธิเจต มงคลโสฬศ
ผู้เขียน: อธิเจต มงคลโสฬศ

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส สนใจเนื้อหาด้านสุขภาพจิต สาธารณสุข และความยั่งยืน รวมถึงประเด็นทันกระแสที่มีแง่มุมน่าสนใจซ่อนอยู่

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด