เข้าโหมด “นับถอยหลัง” ตัดสินคดีใหญ่ “อิ๊งค์-ทักษิณ”

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังเดินหน้าสู่การแก้ปัญหาขัดแย้ง หลังมติที่ประชุมร่วม 3 ฝ่ายที่มาเลเซียให้หยุดยิง และเข้าสู่การประชุมหารือ ทั้งระดับแม่ทัพภาค และระดับคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC วันที่ 4 ส.ค.2568

แต่ในอีกด้านหนึ่ง การยื่นเรื่องสอย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงสนทนากับ “อังเคิล ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภา ของกลุ่ม สว. กำลังเดินถอยหลัง ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของ น.ส.แพทองธาร ออกไปอีก 15 วัน ถึงวันที่ 4 ส.ค. เป็นครั้งสุดท้าย

อ่านข่าว : ศาล รธน.ให้ "แพทองธาร" ขยายแจงปมคลิปคุย "ฮุนเซน" ถึง 4 ส.ค.

หลังจากก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 : 0 รับคำร้องไว้วินิจฉัย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2568 และยังมีมติ 7 : 2 ให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไว้ก่อนตามคำร้อง

ซึ่งหากเทียบกับกรอบระยะเวลาที่นายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อครั้งเป็นนายกฯ และถูกยื่นสอยจากตำแหน่งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ “ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์” และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง

เท่ากับช่วงเวลาพิพากษา น่าจะอยู่ราวกลางเดือน ก.ย.2568 หรือช้าสุดไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนกันยายน

ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง และยังเป็นการชี้เป็นชี้ตายบนเส้นทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งยังรวมถึงชะตากรรมของ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาด้วย แม้จะไม่มีตำแหน่งใด ๆ ทางการเมืองก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลต่อทิศทางและการเมืองไทย

ทั้งนี้ ศาลอาญานัดพิพากษา นายทักษิณ ในคดี ม.112 วันที่ 22 ส.ค.2568 ถือว่าเร็วกว่าที่คาดหมาย อันเป็นผลจากการลดจำนวนพยานจำเลยจากเดิม 14 ปาก เหลือเพียงแค่ 3 ปาก ประกอบด้วยนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และมือกฎหมายคนสำคัญของรัฐบาลหลายชุด นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายทักษิณ

ส่วนคดีชั้น 14 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด ล่าสุด (30 ก.ค.) หลังศาลฎีกาไต่สวนพยานจำเลย 1 ปาก คือ นายวิษณุ เครืองาม ในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรม ในช่วงที่นายทักษิณ เดินทางกลับประเทศ และเข้าสู่เรือนจำ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ระบุว่า จึงเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงของกระบวนการในทุกขั้นตอน

ศาลนัดอ่านคำพิพากษา วันที่ 9 ก.ย.2568 หลังจากมีคำพิพากษาของศาล ในคดี ม.112 เพียง 3 สัปดาห์ (ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ)

อ่านข่าว : ศาลฎีกาฯ นัด 9 ก.ย.ฟังคำสั่งบังคับคดี "ทักษิณ” นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ

ไทม์ไลน์นี้ น่าจะใกล้เคียงกับคดี น.ส.แพทองธาร ในส่วนคำร้องที่ไปศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่นับคำร้องที่ไปยัง ป.ป.ช.เรื่องปมคลิปเสียงเช่นกัน และยังจะรวมถึงคำร้องในเรื่องอื่น ๆ ของรัฐบาล และตัวบุคคล ที่มีร้องไปทั้งกกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ

ยังไม่นับคดีแกนนำพรรคเพื่อไทยในฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนฯ ที่ถูกยื่นร้องปมแปรงบประมาณ 3 โครงการ ลงพื้นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดลงมติชี้ขาด ในวันที่ 1 ส.ค.2568 เช่นกัน

ถือเป็นช่วงเวลาสามัคคีชุมนุม “ขาลง” ของคน “ตระกูลชินวัตร” และรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่มรสุมรุมกระหน่ำอย่างหนักในขณะนี้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : อัปเดต พลุระเบิดสุพรรณบุรี เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บ 2 คน

ห้ามบินโดรน 14 พื้นที่เสี่ยงกระทบมั่นคงช่วงตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา