เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เที่ยวบิน ANA 114 ของสายการบิน All Nippon Airways ซึ่งเป็นเครื่องบิน Boeing 787-9 Dreamliner ออกเดินทางจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว มุ่งหน้าสนามบินจอร์จ บุช อินเตอร์คอนติเนนตัล ฮิวสตัน ต้องเปลี่ยนเส้นทางลงจอดฉุกเฉินที่ ท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล-ทาโคมา หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายเมื่อผู้โดยสารคนหนึ่งพยายามเปิดประตูฉุกเฉินถึง 2 บาน ขณะเครื่องบินลอยอยู่กลางอากาศ
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังบินไปได้ราว 10 ชั่วโมง ลูกเรือและผู้โดยสารคนอื่น ๆ ร่วมกันควบคุมผู้ก่อเหตุได้ทัน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เครื่องลงจอดที่ซีแอตเทิลเวลา 04:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารคนนี้ถูกส่งตัวไปประเมินอาการที่โรงพยาบาลทันที ด้าน สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และตำรวจท่าเรือซีแอตเทิลเข้าสอบสวน แต่ยังไม่มีการตั้งข้อหา
ความวุ่นวายยังไม่จบ หลังเครื่องจอดที่ซีแอตเทิล ผู้โดยสารอีกคนแสดงความไม่พอใจที่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง โดยทุบประตูห้องน้ำอย่างรุนแรง จนต้องถูกนำตัวออกจากเครื่องบิน สายการบินยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 ไม่เกี่ยวข้องกัน และผู้โดยสารคนที่ 2 ถูกควบคุมอย่างสงบ ต่อมา เที่ยวบิน ANA 114 เดินทางต่อไปฮิวสตัน ลงจอดปลอดภัยก่อน 13:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดจาก "ผู้โดยสารก่อความไม่สงบ" ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในปี 2566 FAA รายงานเหตุผู้โดยสารก่อกวนกว่า 2,000 ครั้ง แม้ลดจาก 6,000 ครั้งในปี 2564 แต่ยังคงปรับผู้ก่อเหตุกว่า 400 ราย รวมเงินกว่า 7,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์คล้ายกัน เช่น เที่ยวบินจากบาหลีไปเมลเบิร์นที่ต้องกลับลำ หรือกรณีผู้โดยสารทำร้ายพนักงานบนเครื่องของ United Airlines สะท้อนถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยการบิน
How to เป็นผู้โดยสารที่น่ารักของลูกเรือ
ในประเทศไทย ผู้โดยสารต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 (แก้ไขเพิ่มเติม) และระเบียบของ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เพื่อความปลอดภัยและไม่ละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่อาจกระทบการปฏิบัติหน้าที่ของลูกเรือ เช่น การพยายามเปิดประตูเครื่องบิน โดยมีแนวทางปฏิบัติตนสำหรับผู้โดยสารและโทษสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎหมายการบิน ดังนี้
- ปฏิบัติตามคำสั่ง-คำแนะของพนักงานต้อนรับ เช่น คาดเข็มขัดนิรภัย ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อจำเป็น และอยู่ในที่นั่งขณะเครื่องขึ้น-ลง
- ห้ามรบกวนอุปกรณ์เครื่องบิน อย่าสัมผัสหรือพยายามเปิดประตูฉุกเฉิน อุปกรณ์ออกซิเจน หรือสิ่งอำนวยความปลอดภัยใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
- หากพยายามเปิดประตูฉุกเฉิน จะมีโทษ ม.232 กระทำการให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยาน จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีร้ายแรง หากทำให้เครื่องบินเสียหายหรือเกิดอันตรายต่อชีวิต เข้าข่าย ม.233 จำคุก 3-15 ปี หรือปรับ 60,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- งดพฤติกรรมก่อกวน หลีกเลี่ยงการตะโกน การพูดคำต้องห้าม (ระเบิด, บอมบ์) ดื่มแอลกอฮอล์เกินควร หรือกระทำการที่รบกวนผู้โดยสารอื่นและลูกเรือ
- ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของลูกเรือ จะมีโทษ ม.235 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้ไฟ หากฝ่าฝืนโทษม.231 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- แจ้งปัญหาทางการแพทย์ล่วงหน้า เพื่อการเตรียมการดูแลที่เหมาะสมระหว่างเที่ยวบิน
- ปฏิบัติตามกฎศุลกากรและความปลอดภัย ไม่พกสิ่งของต้องห้าม เช่น อาวุธ วัตถุไวไฟ และปฏิบัติตามการตรวจค้น หากฝ่าฝืนกฎความปลอดภัยมีโทษ ม.22 ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
นอกจากโทษทางกฎหมายแล้วนั้น ผู้ที่กระทำผิดก็อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากทางสายการบิน เช่น
- ขึ้นบัญชีดำ (no-fly list) ห้ามเดินทาง
- ถูกฟ้องร้องค่าเสียหาย เช่น ค่าใช้จ่ายจากการลงจอดฉุกเฉิน (อาจสูงถึงหลักล้านบาท)
- ถูกดำเนินคดีในประเทศปลายทาง หากเหตุเกิดนอกประเทศไทย
ที่มา : CNN, พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 (แก้ไขเพิ่มเติม), สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT), ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT), กระทรวงคมนาคม
อ่านข่าวอื่น :
"กุสุมาลวตี" บุกสภายื่นสอบจริยธรรม "อนุทิน" จ่อไปผู้ตรวจฯ-ป.ป.ช.ต่อ
"วิสุทธิ์" ยัน 324 เสียงพรรคร่วมรับหลักการงบฯ 69 เชื่อไร้อุบัติเหตุทางการเมือง