วันนี้ (26 พ.ค.2568) พนักงานสอบสวนชุดทำคดีการยักยอกเงินวัดไร่ขิง เตรียมประสานกรมราชทัณฑ์เข้าสอบปากคำนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ คนสนิทของนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้
เจ้าหน้าที่พบบางประเด็นต้องสงสัยเกี่ยวกับการจัดการเงินในบัญชีของนายแย้ม โดยพบว่านำบัญชีของบุคคลอื่น (บัญชีชื่อนายฉัตรชัย) ไปใช้ทำธุรกรรมการเงินที่โอนให้ น.ส.อรัญญาวรรณ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินว่าอาจถูกยักยอกในส่วนใด
สำหรับสาเหตุที่นายเอกพจน์ ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันยักยอกเงินจากวัดไร่ขิง จากข้อมูลการสอบสวนระบุว่า นายเอกพจน์ ในขณะที่เป็นพระมหาเอกพจน์ ทำหน้าที่ดูแลการเงินให้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงจริง แต่ทำในฐานะพระเลขา การทำธุรกรรมการเงินที่พบทั้งหมดถูกบันทึกรายรับรายจ่ายไว้ค่อนข้างละเอียด พนักงานสอบสวนจึงต้องหาข้อเท็จจริงก่อนว่านายเอกพจน์ได้ประโยชน์อย่างไร เพราะหลักฐานยังไม่พบเส้นทางการเงินว่านายเอกพจน์รับผลประโยชน์โดยตรง
ส่วนคำให้การของนายเอกพจน์ในวันแรกที่ถูกควบคุมตัว ให้การเป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวน และยังให้การว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงมีพฤติกรรมร่วมเล่นการพนัน ไม่ใช่แค่ให้เงิน น.ส.อรัญญาวรรณ ด้วยความเสน่หาเพียงอย่างเดียว จึงทำให้จำเป็นต้องเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาประเด็นอื่น ๆ
อ่านข่าว
"สุชาติ" ไม่ไกล่เกลี่ยฟ้องหมิ่น "รักชนก-สหัตวัส" ศาลเลื่อนไต่สวน 16 มิ.ย.