ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ฮาร์วาร์ด" 388 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ สถาบันเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา

ต่างประเทศ
23 พ.ค. 68
18:32
365
Logo Thai PBS
"ฮาร์วาร์ด" 388 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ สถาบันเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา
อ่านให้ฟัง
09:38อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถานที่หล่อหลอมผู้นำและผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก โดดเด่นด้วยความเป็นเลิศทางวิชาการและความหลากหลายนานาชาติ แต่ขณะนี้เผชิญวิกฤต เมื่อรัฐบาลทรัมป์ระงับเงินทุน 2,200 ล้านดอลลาร์และสั่งห้ามรับนักศึกษาต่างชาติ สั่นสะเทือนอนาคตการศึกษาโลก

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2568 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเพิกถอนการรับรองโครงการ Student and Exchange Visitor Program (SEVP) ห้ามรับนักศึกษาต่างชาติ กระทบนักศึกษา 6,793 คน หรือร้อยละ 27.2 ของนักศึกษาทั้งหมด 9,970 คน จากกว่า 140 ประเทศ

คำสั่งนี้เกิดจากข้อกล่าวหาของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ว่า ฮาร์วาร์ดไม่ยอมส่งบันทึกความประพฤติย้อนหลัง 5 ปีของนักศึกษาต่างชาติที่เข้าร่วมการประท้วงที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส เลขาธิการ DHS คริสตี โนเอม เรียกร้องบันทึกภายใน 72 ชั่วโมง มิฉะนั้นมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะสูญเสียสถานะ SEVP ถาวร

ทำเนียบขาวกล่าวหาฮาร์วาร์ดว่าเป็นแหล่งเพาะบ่มผู้ต่อต้านอเมริกาและสนับสนุนฮามาส พร้อมระงับเงินทุน 2,200 ล้านดอลลาร์ และขู่เพิกถอนสถานะปลอดภาษี ขณะที่ฮาร์วาร์ดออกมาประณามคำสั่งนี้ว่า "ผิดกฎหมาย" และยืนยันจะปกป้องอิสรภาพวิชาการ เพื่อรักษาบทบาทศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ

รู้จักมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก่อตั้งในปี พ.ศ.2179 (ขณะนี้อายุ 388 ปี) ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในกลุ่ม Ivy League มีนักศึกษาราว 24,967 คน ในปีการศึกษา 2567 แบ่งเป็นปริญญาตรี 7,240 คน และบัณฑิต 17,727 คน

ฮาร์วาร์ดประกอบด้วย 12 คณะวิชาเด่น เช่น Harvard College, Harvard Law School, Harvard Business School และ Kennedy School of Government มีคณาจารย์ 2,400 คน และศิษย์เก่ากว่า 371,000 คนทั่วโลก งบประมาณประจำปี 5,400 ล้านดอลลาร์ และเงินบริจาค 507,000 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา ทำให้ฮาร์วาร์ดมีทรัพยากรสนับสนุนการวิจัยและทุนการศึกษาจำนวนมาก

ฮาร์วาร์ดมีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ ผลิตบุคคลสำคัญ เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 คน และผู้รับรางวัลโนเบล 162 คน พื้นที่ขนาดกว่า  528 ไร่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก เช่น ห้องสมุด Widener ที่มีหนังสือ 17 ล้านเล่ม และศูนย์วิจัยนวัตกรรมในสาขาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และนโยบายสาธารณะ

อีกหนึ่งพันธกิจที่เป็นหัวใจของสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ คือการเป็นผู้นำด้านวิชาการระดับโลก ที่ยอมรับนักศึกษาต่างชาติ ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้

ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมอง
ฮาร์วาร์ดเชื่อว่านักศึกษาจากภูมิหลังต่าง ๆ นำประสบการณ์และแนวคิดที่หลากหลาย ช่วยยกระดับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชั้นเรียนและงานวิจัย ข้อมูลจาก Harvard International Office ปี 2567 ระบุว่า นักศึกษาต่างชาติจาก 140 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 27.2 ของนักศึกษาทั้งหมด สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรม

การแข่งขันระดับโลก
ฮาร์วาร์ดมุ่งดึงดูดนักศึกษาที่มีศักยภาพสูงสุดทั่วโลก เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำด้านการศึกษาและวิจัย เจสัน เฟอร์แมน ศาสตราจารย์จากฮาร์วาร์ด ระบุว่า นักศึกษาต่างชาติเป็นพลังขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งห้องปฏิบัติการของฮาร์วาร์ดพึ่งพานักศึกษาต่างชาติถึงร้อยละ 30 การแบนนักศึกษาต่างชาติจากนโยบายทรัมป์ อาจทำให้ห้องปฏิบัติการ "ว่างเปล่าลง"

ฮาร์วาร์ด คือ Soft Power ของสหรัฐฯ
นักศึกษาต่างชาติที่จบจากฮาร์วาร์ด มักกลับไปเป็นผู้นำในประเทศของตน สร้างเครือข่ายศิษย์เก่าที่ขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ เควิน รัดด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ระบุว่า การแบนนักศึกษาต่างชาติจะทำลาย "Soft power" ของสหรัฐฯ ซึ่งพึ่งพาการศึกษาเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงนานาชาติ

การเงินและความยั่งยืน
นักศึกษาต่างชาติมักจ่ายค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน โดยในปีที่แล้ว คิดเป็นรายได้ราวร้อยละ 15 ของงบประมาณฮาร์วาร์ด แลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า การสูญเสียนักศึกษาต่างชาติจะกระทบงบประมาณและโอกาสให้ทุนนักศึกษาท้องถิ่น

ตัวอย่างศิษย์เก่าต่างชาติจากฮาร์วาร์ด

ทำเนียบศิษย์เก่าของฮาร์วาร์ดเต็มไปด้วยบุคคลสำคัญจากทั่วโลก ในหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น การเมือง, ธุรกิจ, กฎหมาย, วารสารศาสตร์, ภาพยนตร์และโทรทัศน์, รวมถึงศาสตราจารย์และนักวิชาการ ศิษย์เก่าที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันหลายคนได้สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เช่น

  1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2554

  2. จาซินดา อาเดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2544

  3.  ระทัน ทาทา นักธุรกิจชาวอินเดีย อดีตประธานกลุ่มบริษัท Tata สำเร็จการศึกษา Harvard Business School ปี 2518

  4. บัน คี-มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ชาวเกาหลีใต้ สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2527

  5. เย็นส์ สต็อลเตินบาร์ก เลขาธิการองค์การนาโต ชาวนอร์เวย์ สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2530

  6. เฟลิเป กัลเดรอน อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2543

  7.  ฮวน มานูเอล ซานโตส อดีตประธานาธิบดีโคลอมเบีย สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2524

  8. คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป ชาวฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2524

  9.  ซาเคียกีน เอลเบกดอร์จ อดีตประธานาธิบดีมองโกเลีย สำเร็จการศึกษา Harvard Kennedy School ปี 2545 

  10. อานันท์ มหินทรา นักธุรกิจชาวอินเดีย ประธานกลุ่มบริษัท Mahindra สำเร็จการศึกษา Harvard College ปี 2520

ศิษย์เก่าเหล่านี้สะท้อนว่า นักศึกษาต่างชาติของฮาร์วาร์ดไม่เพียงสร้างชื่อเสียงและพัฒนาบ้านเกิด แต่ยังขับเคลื่อนประเด็นระดับโลก ตั้งแต่สันติภาพไปจนถึงการเมือง

จากคำสั่งของทรัมป์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา สร้างความโกลาหลให้นักศึกษาต่างชาติ 6,793 คน เสี่ยงสูญสถานะวีซา จาเร็ด จากนิวซีแลนด์ วัย 18 ปี กล่าวว่าเขาใจหล่นไปถึงตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าอาจไม่ได้เริ่มเรียนที่ฮาร์วาร์ด ส่วน คาร์ล โมลเดน นักศึกษาปี 3 จากออสเตรีย ก็รู้สึกกลัวไม่ได้กลับวิทยาเขต ขณะนี้ ฮาร์วาร์ดกำลังเร่งให้คำแนะนำ เช่น การเรียนออนไลน์ แต่คณาจารย์เตือนว่า การสูญเสียนักศึกษาต่างชาติจะทำลายความหลากหลายทางวิชาการและนวัตกรรม

ทั้งนี้ สมาคมคณาจารย์ฮาร์วาร์ดต่างออกมาประณามคำสั่งนี้ว่า "ละเมิดรัฐธรรมนูญ" และยืนยันว่านักศึกษาต่างชาติเป็น สมาชิกที่จำเป็น ฮาร์วาร์ดจะต่อสู้ในศาลเพื่อคืนสถานะ SEVP และเงินทุน 2,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ โนเอม ขู่ลงโทษมหาวิทยาลัยอื่นหากไม่ปฏิบัติตาม

รู้หรือไม่ : Ivy League คือ กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ 8 แห่งในสหรัฐO ที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการ ความเก่าแก่ และการคัดเลือกนักศึกษาที่เข้มงวด ได้แก่ Harvard, Yale, Princeton, Columbia, Penn, Brown, Dartmouth และ Cornell

อ่านข่าวอื่น :

"ทรัมป์" ออกคำสั่งขวาง "ฮาร์วาร์ด" รับนักศึกษาต่างชาติ

กสทช.สั่ง "ทรู" ทบทวนแยก 2 ส่วนเยียวยาสัญญาณล่ม

ต่อต้านชาวยิวระอุ! เหตุรุนแรงสหรัฐฯ เกือบหมื่นครั้งสูงสุดรอบ 46 ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง