"ทักษิณ" เคลื่อนตัว กระชับพื้นที่ ส่งผ่านอำนาจ "อุ๊งอิ๊ง" สู้ศึกระยะไกล

การเมือง
6 พ.ค. 67
12:27
793
Logo Thai PBS
"ทักษิณ" เคลื่อนตัว กระชับพื้นที่ ส่งผ่านอำนาจ "อุ๊งอิ๊ง" สู้ศึกระยะไกล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกจังหวะก้าวย่างของ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เพียงถูกจับจ้องจากทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เพราะไม่ได้สะท้อนแค่การเคลื่อนไหวของตัวบุคคล แต่ยังฉายภาพให้เห็นการขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบันด้วย

การลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ของ “ทักษิณ” พร้อมน้องเขย-น้องสาว “สมชาย และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” โดยมี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และ “พสุ ลิปตพัลลภ” บุตรชายไปยังสวนน้ำของกลุ่มบริษัท พราว ลูกสาวของนายสุวัจน์ รวมทั้งการเดินลงไปดูงานตามจุดต่างๆ ตรวจตลาดกลางคืน ตลาดบางลา หาดป่าตอง พบปะนักธุรกิจ ผู้ประกอบการในพื้นที่ เดินทางไปเยี่ยมชมสวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต เยี่ยมชม โครงการอุโมงค์กะทู้ ไปป่าตอง จึงกลายเป็นประเด็นที่หลีกไม่พ้นที่ถูกจับตาความเชื่อมโยงในการผลักดันให้เกิดโครงการ Entertainment Complex หรือไม่

ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร

อ่านข่าว : “ทักษิณ” ขยับแล้ว เดินสายพิสูจน์ศรัทธา

หลังจากเมื่อต้นเดือน มี.ค.2567 รัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้ปัดฝุ่นเปิดพิมพ์เขียว เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ...เพื่อเสนอประกอบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร จะเสร็จแล้วก็ตาม และพยายามนำเสนอให้เป็นอีกนโยบายหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และนำเม็ดเงินเข้าจากต่างประเทศ

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ลีลาและจังหวะการเดินเกมของ “ทักษิณ” ในขณะนี้ คือ การทำการบ้านทางการเมืองเต็มตัว เป็นการลงไปสำรวจข้อมูลเก็บบรรยากาศ สิ่งที่เขารื้อเวทีไป 17 ปี ซึ่งเชื่อว่า คงมีฉากทัศน์ หรือมุมมองอะไรที่เปลี่ยนเปลงต่อ พรรคเพื่อไทยและทักษิณไปมากพอสมควร ดังนั้นการลงพื้นที่ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ ยัน จ. ภูเก็ต จะทำให้เห็นวิถีชีวิตของสังคม และเศรษฐกิจของไทยที่เปลี่ยนไปมากพอสมควร ที่อาจจะมีผลต่อการปรับหรือเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทย

“นับจากนี้ เราจะเห็นลีลาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณเป็นระบบมากขึ้น และภูเก็ต จะไม่ใช่จังหวัดสุดท้ายที่เขาจะไปเยือน ก่อนหน้านี้และเขาเคยพูดไว้ว่า จังหวัดไหนที่มี สส.พรรคเพื่อไทย หรือไม่มี สส.ของพรรคอยู่เลย ก็พร้อมจะไปลงพื้นที่ มองอีกด้านก็เป็นการเดินเกมการเมืองนอกสภา ที่ตนเองไม่ได้มีอะไรทำระหว่างพักโทษ”

ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวอีกว่า พลานุภาพการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” แม้จะมีหลายฝ่ายไม่พอใจ แต่ก็ทำให้ฝ่ายการเมืองทุกขั้วต้องจับตาดูตลอดเวลา โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยกำกับดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจ เพราะเขาต้องการหวังผลทางคะแนนนิยมทางการเมือง แต่ต้องยอมรับว่า ภาพที่ผ่านมาของนายทักษิณกับจังหวัดทางใต้ ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น

ดังนั้นการเคลื่อนไหวดังกล่าว มีความเป็นไปได้ว่า คือเกมการเมืองที่อาจต้องส่งถ่ายอำนาจระหว่าง ทักษิณ ให้กับลูกสาว “แพทองธาร” ในวันข้างหน้า เขาจึงจำเป็นต้องลงไปเก็บข้อมูล หรือทำอีเว้นท์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นเป็นระยะๆ นับจากนี้ เพื่อให้ประชาชน เกิดความคุ้นชินว่า ต่อไปจะเห็นภาพในลักษณะนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป ซึ่งสำหรับมิตรรักแฟนเพลงของพรรคไทยรักไทยเดิมไปด้วย คงไม่มีปัญหา

อ่านข่าว : หลายฝ่ายโต้กลับ "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์ "ธปท."อุปสรรคพัฒนาประเทศ?

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านทักษิณบนท้องถนนนั้น ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ปัจจุบันวิธีคิดของผู้คนเรื่องการเคลื่อนไหวบนท้องถนนได้เปลี่ยนไปแล้ว แม้คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยและไม่ชอบใจกับสิ่งที่ “ทักษิณ” ทำ แต่ม็อบจะไม่เกิดขึ้น และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง หรือส่งผลกระทบคนส่วนใหญ่อย่างไร อาจมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออก ดังเช่น การปรับ ครม.ของรัฐบาลเพื่อไทย ทุกคนทราบดีว่าด้วยสไตล์ดีเอ็นเอของทักษิณ-เพื่อไทย เมื่อกระชับอำนาจได้แล้วคงคิดว่า ปีหนึ่งจะมีการปรับ ครม. 2 ครั้งก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะรอคอยไม่ได้

“การต่อสู้ทางการเมืองในวันข้างหน้า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงจะผนึกกำลังกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น เห็นได้จากการปรับขึ้นค่าครองชีพ ค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยขานรับกันอย่างเป็นระบบ เป็นอีกแนวทางการต่อสู้ทางการเมือง การเมืองโดยทั่วไป เราจะไม่เคยเห็นภาพที่พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคพลังประชารัฐ สามารถคุมกระทรวงเกษตรโดยแบบเบ็ดเสร็จโดยพรรคเดียว ซึ่งโดยทั่วไปตามธรรมชาติเขาไม่ทำกัน และไม่เคยมีมาก่อน...ซึ่งลำพังพรรคเพื่อไทย การที่จะต่อสู้กับพรรคก้าวไกลในระยะยาวคงจะไม่พอ จึงต้องใช้รอใช้บริการ ผนึกกำลังของทุกพรรคให้เข้ามาช่วยกัน”

ลีลาการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ยังขยับต่อเนื่อง โดยปลายเดือน พ.ค.นี้ นอกจากจะมีนัดเพื่อรับประทานอาหารกับ “สุวัจน์” อีกครั้งแล้ว ก็ต้องติดตามว่า การเยือนถิ่นเมืองย่าโมรอบนี้ จะมี สส.หรืออดีต สส.ใครล้อมรอบกายอีกบ้าง

อ่านข่าว : 

นายกฯ ปฏิเสธกดดัน "ผู้ว่าแบงก์ชาติ" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

"เพื่อไทย" ชี้แบงก์ชาติ ควรรับฟ้งรอบด้าน ยันรัฐบาลไม่แทรกแซง

"อิ๊งค์" ลั่นทำถูกแล้วตั้งรัฐบาลผสม ยันปรับ ครม.ถูกฝาถูกตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง