และยังไม่รู้จะไปเจอที่ไหนอีก เพราะยอดขนกากแคดเมียมมาจาก จ.ตาก มีรวมเกือบ 14,000 ตัน
ท้าทายคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ต่อที่ประชุม ครม. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดี (ดีเอสไอ) โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นแม่งาน
เพราะยังไม่ใช่การตอบโจทย์ ประเด็นคำถามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งเป็นเรื่องใหญ่ มีความสำคัญ เกี่ยวพัน ทั้งเรื่องนโยบาย การปฏิบัติ และที่ปฏิเสธไม่ได้ คือเรื่องผลประโยชน์มหาศาล การตั้งกรรมการหรือคณะทำงานเป็นที่รู้ๆ กันดีในวงราชการว่า “เป็นเรื่องของการซื้อเวลา”
ทั้งที่การกลบฝังกากแคดเมียมใน จ.ตาก เป็นการฝังกลบแบบปิดตาย ตามหลักปฏิบัติและถูกต้องตามกฎเกณฑ์ หลังจากบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่เคยทำเหมืองแร่สังกะสี และมีโรงประกอบโลหกรรมจากเหมืองที่แม่สอด จ.ตาก มีปริมาณลดลง จึงปิดกิจการเหมืองแร่สังกะสี หันไปทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และอื่น ๆ
ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เมื่อปลายปี 2564 เชื่อว่า กากแคดเมียมที่พบขณะนี้ น่าจะมาจากกากแคดเมียมที่บริษัทดังกล่าวฝังกลบไว้นานแล้ว
แม้แต่คนรุ่นใหม่ๆ ใน จ.ตาก และแม่สอด ไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีกากแคดเมียมฝังกลบอยู่ในพื้นที่ นำไปสู่ปฏิกิริยาความกังวล เมื่อมีข่าวเกิดขึ้น เห็นได้จาก สส.พรรคก้าวไกล จ.ตาก ได้ตั้งวงหารือกับ สส.พรรคก้าวไกล ทั้งในพื้นที่ที่พบกากแคดเมียม ที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรสาคร
ซึ่งเริ่มมีท่าทีต่อต้าน จะไม่ซื้อและบริโภคสัตว์น้ำที่มหาชัย ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง และอยู่ห่างจากโรงงานที่เก็บกากแคดเมียมมาก แต่เพราะการชี้แจงทำความเข้าใจจากภาครัฐในเรื่องนี้ไม่มีเกิดขึ้น
ไม่ต่างจากคำถามสำคัญที่ว่า มีการขุดกากแคดเมียมในหลุมกลบฝังที่ถูกต้องจตามหลักวิชาการแล้ว ขึ้นมาได้อย่างไร ทางเจ้าของพื้นที่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หากไม่รู้เห็นแล้ว จะมีการขุดรื้อขึ้นมาได้อย่างไร อย่างน้อย 2 หลุมแล้วซึ่งความจริงเรื่องนี้ ยังไม่มีรายละเอียดนัก
ยังไม่นับเรื่องอนุญาตให้มีการขนย้ายกากแคดเมียมจาก จ.ตาก ไปยังปลายทางพื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างไร การขนย้ายที่เชื่อว่า น่าจะใช้เวลาขนนานเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ผ่านหูผ่านตาเจ้าหน้าที่ รวมทั้งตำรวจที่ประจำตามจุดตรวจต่าง ๆ ไปได้อย่างไร เพราะในบิ๊กแบ็กที่ใช้บรรจุ และพัสดุที่พบภายใน ก็น่าจะชวนตั้งข้อสงสัยได้ตั้งแต่แรกพบ แต่กลับไม่เคยมีปรากฎข่าวคราวเรื่องขนย้าย
ประเด็นสำคัญอีกด้านหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ คือการเข้าไปมีบทบาทในการตรวจสอบของกรรมาธิการการอุตสาหกรรมของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล และเป็น สส.พรรคเดียวกันกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ภาครัฐ ตรวจหาความจริงสารแคดเมียม ว่ามีเท่าไรกันแน่ กระจายไปอยู่ไหนบ้างแล้ว นายอัครเดชยังซัดไปถึงคำสั่งทางปกครอง ให้ขนย้ายแล้วเสร็จภายใน 7 วัน ว่าเป็นเรื่องโลกสวย เพราะในทางปฏิบัติทำได้หรือไม่ และกากแคดเมียมเป็นสารอันตราย การขนย้ายต้องมีการวางแผนเตรียมการอย่างดี หาไม่แล้ว สุดท้ายชาวบ้านจะรับเคราะห์ฟรี
นายอัครเดช ยังเรียกร้องให้เร่งหาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะใน EIA ระบุชัดกากแคดเมียมเหล่านี้ไม่สามารถขนย้ายได้ ยืนยีนกมธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิด และจะเรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อกรรมาธิการ วันที่ 17 เม.ย.
นายอัครเดช ยังเปิดประเด็นเรื่องความเชื่อมโยง ระหว่างนายทุนจีนที่อ้างว่า เป็นคนติดต่อสั่งซื้อกากแคดเมียม และเจ้าของโรงงานบางส่วน ที่รับซื้อและจัดเก็บกากแคดกเมียม รวมทั้งโรงงานหลอมจากขยะ ที่น่าจะอยู่ในกลุ่มขบวนเดียวกัน
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจ ปทส. ที่ระบุว่า นายทุนจีนเคยถูกตำรวจจับกุม หลังพบตะกอนตะกั่วอยู่ในโรงงาน ปี 2556 ครั้งนั้นโดนโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 60,000 บาท ล่าสุดตรวจเอกสารการขอวีซ่าพบว่า โอเวอร์สเตย์มานานกว่า 5 ปีแล้ว
เท่ากับกลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ ต้องมีกลุ่มคนหรือขบวนการให้การช่วยเหลือหรือมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังด้วย
ที่ถกเถียงสนั่นสภากาแฟและคอการเมืองขณะนี้ คือ นายอัครเดช เทคแอคชั่นจัดหนักจัดเต็มในเรื่องนี้ แม้จะสังกัดพรรคเดียวกับรัฐมนตรี แทนที่จะเป็นการคุยวงในกันเอง ท่ามกลางกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีที่ยังไม่จางหาย แม้นายกฯ จะยืนยันยังไม่มีการปรับ
และนายวิทยา แก้วภราดัย สส.ระดับอาวุโส ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ย้ำว่า สอบถามหัวหน้าพรรค นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค แล้ว ยังไม่ได้รับสัญญาณ และเชื่อว่าน่าจะเป็นการปรับภายในของพรรคเพื่อไทยมากกว่า
แต่กูรูการเมืองส่วนใหญ่กลับเห็นต่างจากนายเศรษฐา และเชื่อว่า อาจไม่ใช่การปรับเฉพาะในพรรคเพื่อไทยเท่านั้น พรรคอื่น รวมถึงกรณีมีเรื่องกระทบต่อภาพพจน์รัฐบาล ก็อาจมีเสียวสันหลังได้เช่นกัน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา