ป่าชุมชน
ชุมชนตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบและที่ราบเชิงเขา ชาวบ้านทำนา ทำไร่ และเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง โดดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่เดิมในพื้นที่เคยเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูป่าด้วยการปลูกต้นไม้นานาชนิดทดแทน จนเกิดเป็นป่าที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนในชุมชน การบริหารจัดการด้วยวิธีจิตอาสารักษาป่าชุมชนและสิ่งแวดล้อม นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันทำให้ "ป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี" เป็นแหล่งศึกษาดูงานของท้องถิ่นและเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศ
กิจกรรมชุมชน
จากป่าชุมชนที่สมบูรณ์ก่อให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ นั่นคือ งานผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน อาทิ เครื่องประดับ แหวน กำไล ที่ทำมาจากหวายและเถาวัลย์ทอง ซึ่งมีอยู่มากมายในป่า โดยฝีมือคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ทางด้านการเกษตรและการอนุรักษ์ มีการปลูกพืชผักอินทรีย์ เช่น ผักหวาน และการทำสวนผสมตามแนวพระราชดำริ นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีกิจกรรมสาธิตการทอผ้าขาวม้า การสานเปลไม้ไผ่ การทำข้าวเกรียบสายรุ้งสมุนไพร การแปรรูปตาล เช่น การนำหัวตาลไปทำถ่านใช้ในครัวเรือนตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และนำผลตาลไปทำเป็นขนมต่าง ๆ เช่น ขนมตาล และจาวตาลเชื่อม นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีการแสดงพื้นบ้านอย่าง เพลงเหย่ย เป็นเพลงพื้นบ้านเก่าแก่ที่กำลังจะสูญหายไป ซึ่งคำว่า "เหย่ย" เป็นเสียงที่เพี้ยนมาจากคำว่า "เอย" นิยมเล่นกันในเทศกาลวันสงกรานต์ วันนักขัตฤกษ์ งานมงคล และงานรื่นเริงทั่วไปของชาวบ้าน แต่ในปัจจุบันเยาวชนของบ้านห้วยสะพานสามัคคีและสมาชิกในตำบล ได้อนุรักษ์และต่อยอดโดยนำมาเป็นการแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในชุมชน ถือเป็นเสน่ห์ทางวัฒนธรรมวิถีชุมชนอีกรูปแบบหนึ่ง และยังมีวัดเขาจำศีล ซึ่งภายในวัดมีโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในโบสถ์มีภาพฝาพนังอันสวยงามวิจิตรบรรจง นอกจากนี้ทัศนียภาพธรรมชาติรอบวัดยังอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่ม
อาหารพื้นบ้านพื้นถิ่น
ชาวบ้านตำบลหนองโรงมีอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อ นั่นคือ น้ำพริกมะสัง ทำจากผลของมะสัง หรือ หมากสัง ที่มีรสเปรี้ยว ชาวบ้านนำมาใช้แทนมะนาว ได้ความอร่อยที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีแกงส้มผักหวานกับปลาย่าง โดยผักหวานนี้เป็นผักหวานอินทรีย์จากสวนของชาวบ้านในชุมชนเอง และที่พลาดไม่ได้นั่นคือ เครื่องดื่มสมุนไพรที่หาทานได้ยาก นั่นคือ "น้ำตะโก" เป็นเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร ที่ชาวบ้านบอกว่าใครมาเยือนชุมชนหนองโรงต้องได้ลิ้มลอง
ติดตามชมรายการทั่วถิ่นแดนไทย ตอน เที่ยวไทยวิถีอนุรักษ์ ชุมชนตำบลหนองโรง จ.กาญจนบุรี วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
ป่าชุมชน
ชุมชนตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบและที่ราบเชิงเขา ชาวบ้านทำนา ทำไร่ และเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง โดดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่เดิมในพื้นที่เคยเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูป่าด้วยการปลูกต้นไม้นานาชนิดทดแทน จนเกิดเป็นป่าที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนในชุมชน การบริหารจัดการด้วยวิธีจิตอาสารักษาป่าชุมชนและสิ่งแวดล้อม นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันทำให้ "ป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี" เป็นแหล่งศึกษาดูงานของท้องถิ่นและเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศ
กิจกรรมชุมชน
จากป่าชุมชนที่สมบูรณ์ก่อให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ นั่นคือ งานผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน อาทิ เครื่องประดับ แหวน กำไล ที่ทำมาจากหวายและเถาวัลย์ทอง ซึ่งมีอยู่มากมายในป่า โดยฝีมือคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ทางด้านการเกษตรและการอนุรักษ์ มีการปลูกพืชผักอินทรีย์ เช่น ผักหวาน และการทำสวนผสมตามแนวพระราชดำริ นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีกิจกรรมสาธิตการทอผ้าขาวม้า การสานเปลไม้ไผ่ การทำข้าวเกรียบสายรุ้งสมุนไพร การแปรรูปตาล เช่น การนำหัวตาลไปทำถ่านใช้ในครัวเรือนตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และนำผลตาลไปทำเป็นขนมต่าง ๆ เช่น ขนมตาล และจาวตาลเชื่อม นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีการแสดงพื้นบ้านอย่าง เพลงเหย่ย เป็นเพลงพื้นบ้านเก่าแก่ที่กำลังจะสูญหายไป ซึ่งคำว่า "เหย่ย" เป็นเสียงที่เพี้ยนมาจากคำว่า "เอย" นิยมเล่นกันในเทศกาลวันสงกรานต์ วันนักขัตฤกษ์ งานมงคล และงานรื่นเริงทั่วไปของชาวบ้าน แต่ในปัจจุบันเยาวชนของบ้านห้วยสะพานสามัคคีและสมาชิกในตำบล ได้อนุรักษ์และต่อยอดโดยนำมาเป็นการแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในชุมชน ถือเป็นเสน่ห์ทางวัฒนธรรมวิถีชุมชนอีกรูปแบบหนึ่ง และยังมีวัดเขาจำศีล ซึ่งภายในวัดมีโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในโบสถ์มีภาพฝาพนังอันสวยงามวิจิตรบรรจง นอกจากนี้ทัศนียภาพธรรมชาติรอบวัดยังอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่ม
อาหารพื้นบ้านพื้นถิ่น
ชาวบ้านตำบลหนองโรงมีอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อ นั่นคือ น้ำพริกมะสัง ทำจากผลของมะสัง หรือ หมากสัง ที่มีรสเปรี้ยว ชาวบ้านนำมาใช้แทนมะนาว ได้ความอร่อยที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีแกงส้มผักหวานกับปลาย่าง โดยผักหวานนี้เป็นผักหวานอินทรีย์จากสวนของชาวบ้านในชุมชนเอง และที่พลาดไม่ได้นั่นคือ เครื่องดื่มสมุนไพรที่หาทานได้ยาก นั่นคือ "น้ำตะโก" เป็นเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร ที่ชาวบ้านบอกว่าใครมาเยือนชุมชนหนองโรงต้องได้ลิ้มลอง
ติดตามชมรายการทั่วถิ่นแดนไทย ตอน เที่ยวไทยวิถีอนุรักษ์ ชุมชนตำบลหนองโรง จ.กาญจนบุรี วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live