# Tough Trains:The Transcontinental Railroad
เดินทางครั้งอัศจรรย์ไกล 3,000 ไมล์ข้ามอเมริกา จากฝั่งแอตแลนติกไปยังแปซิฟิค ข้าม 4 เขตเวลาและ 12 รัฐ จะได้พบภูมิประเทศยิ่งใหญ่และทิวทัศน์ตระการตาที่สุดในอเมริกาเหนือ นับจากหัวรถจักรไอน้ำรุ่นแรกสุดในทศวรรษที่ 1830 ก็เรียกได้ว่าทางรถไฟสร้างสหรัฐฯ อย่างที่เรารู้จักทุกวันนี้ขึ้นมา ทำให้เกิดการค้า แพร่กระจายความคิด และอำนวยความสะดวกการอพยพครั้งใหญ่และการตั้งถิ่นฐานทั่วประเทศ
ตอนนี้จะไปทำความรู้จักหนึ่งในชัยชนะทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 ทางรถไฟสายข้ามทวีปนั่นเอง เส้นทางมหึมานี้เชื่อมประเทศเข้าด้วยกัน และเปลี่ยนประวัติศาสตร์อเมริกาไปตลอดกาล
เริ่มการผจญภัยด้วยการย้อนเวลา ส่งนักเดินทางกล้าตายอย่างเซย์ ฮาร์ดิ้งเข้าไปในโลกแสนโรแมนติกของหัวรถจักรไอน้ำ หลังไปดูหัวรถจักรที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาบางส่วนที่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟบัลติมอร์และโอไฮโอแล้ว เซย์ก็เดินทางไปยังสตราสเบิรก ซึ่งอนุญาตให้จับและเรียนรู้ว่าเครื่องจักรที่ยอดเยี่ยมพวกนี้ทำงานอย่างไร เซย์ได้โกยถ่านหิน ตรวจเกจ์วัดความดัน และสุดท้ายก็ได้ขับหัวรถจักรเอง เท่ากับได้ทำให้ความฝันในวัยเด็กเป็นจริง และได้อนุญาตให้ปล่อยไอน้ำจริงๆ ด้วย
เมื่อมุ่งหน้าขึ้นไปตามชายฝั่งในการเดินทางครั้งแรกในหลายต่อหลายครั้ง จุดหมายต่อไปของเราคือนิวยอร์ก เมืองใหญ่ที่สุดของอเมริกา ซึ่งเราจะไปทัวร์เบื้องหลังสถานีแกรนด์เซ็นทรัล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและวุ่นวายที่สุดในโลก หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปชิคาโก เมืองหลวงแห่งการขนส่งสินค้าของอเมริกา ซึ่งเราจะได้ค้นพบบทบาทสำคัญที่ทางรถไฟมีในสงครามกลางเมือง แล้วโดดขึ้นรถไฟสายแคลิฟอร์เนียไซเฟอร์ของแอมแทร็ค
เส้นทางที่จะพาเราไปถึงแคลิฟอร์เนีย มุ่งตะวันตกโดยหยุดสั้นๆ ที่โอมาฮา เพื่อดูว่ายูเนียนแปซิฟิคได้เริ่มความฝันข้ามทวีปที่ไหน ก่อนจะเดินทางไปยังเดนเวอร์ ซึ่งเราจะก้าวเข้าสู่ดินแดนตะวันตกป่าเถื่อน เซย์ถือโอกาสเยอะหนึ่งในทางรถไฟสายเหมืองสายท้ายๆ ที่ยังเหลืออยู่ในอเมริกา และเรียนรู้ว่าทางรถไฟมีผลกระทบต่อชุมชนอเมริกันพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในทุ่งราบอย่างไรบ้าง
พอออกจากเดนเวอร์ เราก็จะได้พบหนึ่งในการเดินทางทางรถไฟที่ยิ่งใหญ่และยากจะลืมเส้นทางหนึ่งในโลก เมื่อรถไฟลัดเลาะไปตามยอดเขาคลุมหิมะของเทือกเขาร็อคกี้และเข้าสู่ทะเลทรายในยูทาห์ หลัง 7 ปีอันยากลำบากแห่งการวางรางผ่านพื้นที่ที่ทุรกันดารที่สุดในโลก เส้นทางสายข้ามทวีปก็กลายเป็นจริงในปี 1869 และที่ยูทาห์
เราจะไปเยือนจุดประวัติศาสตร์ที่ทางรถไฟเสร็จสิ้นลง จุดหมายต่อไปของเราคือทรัคกี ในใจกลางเทือกเขาเซียราเนวาดา ซึ่งเซย์จะไปดูส่วนที่ยากลำบากที่สุดของการก่อสร้าง และดูงานอันตรายที่ทำโดยกุลีชาวจีน ที่เป็นการระเบิดทางไปในหินแกรนิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก การเดินทางช่วงสุดท้ายของเซย์จะพาเขาไปยังซาคราเมนโต บ้านของเซ็นทรัลแปซิฟิค ซึ่งเขาจะขึ้นเรือไปยังซานฟรานซิสโกและมหาสมุทรแปซิฟิค ทางรถไฟสายข้ามทวีปของอเมริกาเป็นความสำเร็จที่ได้รับการเฉลิมฉลองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และทุกวันนี้ก็เป็นหนึ่งในการเดินทางทางรางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ติดตามชมรายการท่องโลกกว้าง ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.05 - 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live
# Tough Trains:The Transcontinental Railroad
เดินทางครั้งอัศจรรย์ไกล 3,000 ไมล์ข้ามอเมริกา จากฝั่งแอตแลนติกไปยังแปซิฟิค ข้าม 4 เขตเวลาและ 12 รัฐ จะได้พบภูมิประเทศยิ่งใหญ่และทิวทัศน์ตระการตาที่สุดในอเมริกาเหนือ นับจากหัวรถจักรไอน้ำรุ่นแรกสุดในทศวรรษที่ 1830 ก็เรียกได้ว่าทางรถไฟสร้างสหรัฐฯ อย่างที่เรารู้จักทุกวันนี้ขึ้นมา ทำให้เกิดการค้า แพร่กระจายความคิด และอำนวยความสะดวกการอพยพครั้งใหญ่และการตั้งถิ่นฐานทั่วประเทศ
ตอนนี้จะไปทำความรู้จักหนึ่งในชัยชนะทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 ทางรถไฟสายข้ามทวีปนั่นเอง เส้นทางมหึมานี้เชื่อมประเทศเข้าด้วยกัน และเปลี่ยนประวัติศาสตร์อเมริกาไปตลอดกาล
เริ่มการผจญภัยด้วยการย้อนเวลา ส่งนักเดินทางกล้าตายอย่างเซย์ ฮาร์ดิ้งเข้าไปในโลกแสนโรแมนติกของหัวรถจักรไอน้ำ หลังไปดูหัวรถจักรที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาบางส่วนที่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟบัลติมอร์และโอไฮโอแล้ว เซย์ก็เดินทางไปยังสตราสเบิรก ซึ่งอนุญาตให้จับและเรียนรู้ว่าเครื่องจักรที่ยอดเยี่ยมพวกนี้ทำงานอย่างไร เซย์ได้โกยถ่านหิน ตรวจเกจ์วัดความดัน และสุดท้ายก็ได้ขับหัวรถจักรเอง เท่ากับได้ทำให้ความฝันในวัยเด็กเป็นจริง และได้อนุญาตให้ปล่อยไอน้ำจริงๆ ด้วย
เมื่อมุ่งหน้าขึ้นไปตามชายฝั่งในการเดินทางครั้งแรกในหลายต่อหลายครั้ง จุดหมายต่อไปของเราคือนิวยอร์ก เมืองใหญ่ที่สุดของอเมริกา ซึ่งเราจะไปทัวร์เบื้องหลังสถานีแกรนด์เซ็นทรัล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและวุ่นวายที่สุดในโลก หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปชิคาโก เมืองหลวงแห่งการขนส่งสินค้าของอเมริกา ซึ่งเราจะได้ค้นพบบทบาทสำคัญที่ทางรถไฟมีในสงครามกลางเมือง แล้วโดดขึ้นรถไฟสายแคลิฟอร์เนียไซเฟอร์ของแอมแทร็ค
เส้นทางที่จะพาเราไปถึงแคลิฟอร์เนีย มุ่งตะวันตกโดยหยุดสั้นๆ ที่โอมาฮา เพื่อดูว่ายูเนียนแปซิฟิคได้เริ่มความฝันข้ามทวีปที่ไหน ก่อนจะเดินทางไปยังเดนเวอร์ ซึ่งเราจะก้าวเข้าสู่ดินแดนตะวันตกป่าเถื่อน เซย์ถือโอกาสเยอะหนึ่งในทางรถไฟสายเหมืองสายท้ายๆ ที่ยังเหลืออยู่ในอเมริกา และเรียนรู้ว่าทางรถไฟมีผลกระทบต่อชุมชนอเมริกันพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในทุ่งราบอย่างไรบ้าง
พอออกจากเดนเวอร์ เราก็จะได้พบหนึ่งในการเดินทางทางรถไฟที่ยิ่งใหญ่และยากจะลืมเส้นทางหนึ่งในโลก เมื่อรถไฟลัดเลาะไปตามยอดเขาคลุมหิมะของเทือกเขาร็อคกี้และเข้าสู่ทะเลทรายในยูทาห์ หลัง 7 ปีอันยากลำบากแห่งการวางรางผ่านพื้นที่ที่ทุรกันดารที่สุดในโลก เส้นทางสายข้ามทวีปก็กลายเป็นจริงในปี 1869 และที่ยูทาห์
เราจะไปเยือนจุดประวัติศาสตร์ที่ทางรถไฟเสร็จสิ้นลง จุดหมายต่อไปของเราคือทรัคกี ในใจกลางเทือกเขาเซียราเนวาดา ซึ่งเซย์จะไปดูส่วนที่ยากลำบากที่สุดของการก่อสร้าง และดูงานอันตรายที่ทำโดยกุลีชาวจีน ที่เป็นการระเบิดทางไปในหินแกรนิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก การเดินทางช่วงสุดท้ายของเซย์จะพาเขาไปยังซาคราเมนโต บ้านของเซ็นทรัลแปซิฟิค ซึ่งเขาจะขึ้นเรือไปยังซานฟรานซิสโกและมหาสมุทรแปซิฟิค ทางรถไฟสายข้ามทวีปของอเมริกาเป็นความสำเร็จที่ได้รับการเฉลิมฉลองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และทุกวันนี้ก็เป็นหนึ่งในการเดินทางทางรางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ติดตามชมรายการท่องโลกกว้าง ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.05 - 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live