"สืบ นาคะเสถียร" เลือกที่จะไม่เรียนต่อระดับปริญญาเอก เพื่อที่จะเข้าไปรับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่ ๆ เขาบอกกับทุกคนว่า ที่นี่คือหัวใจของผืนป่าตะวันตก และเขาเข้ามาที่นี่ โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่ทว่าเวลาเกือบปี ที่สืบทุ่มเทงานอย่างหนัก เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนหันมาสนใจผืนป่าแห่งนี้ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมานั่นคือความว่างเปล่า และ ความเฉยชา ของผู้คนเหล่านั้น
"วีรยา โอชะกุล" หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ผู้หญิงคนแรกที่เข้ามาทำงานในตำแหน่งหัวหน้า ในผืนป่าแห่งนี้ หลายคนบอกว่าเธอเป็นหญิงแกร่ง แต่เธอจะบอกกับทุกคนว่า เธอไม่ได้แค่เข้ามาเป็นหัวหน้าที่นี่ แต่เธอแบกศักดิ์ศรี และ คำสบประมาท ในความเป็นผู้หญิงของเธอมาด้วย เธอจึงล้มไม่ได้ โดยคำที่เธอใช้เป็นหลักยึดในการทำงาน คือถ้อยคำของสืบ นาคะเสถียร
"ผมคิดว่า ชีวิตผมทำดีที่สุดแล้วเท่าที่ผมมีชีวิตอยู่ ผมคิดว่า ผมได้ช่วยเหลือสังคมดีแล้ว ผมคิดว่า ผมได้ทำตามกำลังของผมดีแล้ว และผมพอใจ ผมภูมิใจสิ่งที่ผมทำ"
สารคดีแสงไฟที่ไม่เคยดับ สืบ นาคะเสถียร
"สืบ นาคะเสถียร" เลือกที่จะไม่เรียนต่อระดับปริญญาเอก เพื่อที่จะเข้าไปรับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่ ๆ เขาบอกกับทุกคนว่า ที่นี่คือหัวใจของผืนป่าตะวันตก และเขาเข้ามาที่นี่ โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่ทว่าเวลาเกือบปี ที่สืบทุ่มเทงานอย่างหนัก เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนหันมาสนใจผืนป่าแห่งนี้ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมานั่นคือความว่างเปล่า และ ความเฉยชา ของผู้คนเหล่านั้น
"วีรยา โอชะกุล" หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ผู้หญิงคนแรกที่เข้ามาทำงานในตำแหน่งหัวหน้า ในผืนป่าแห่งนี้ หลายคนบอกว่าเธอเป็นหญิงแกร่ง แต่เธอจะบอกกับทุกคนว่า เธอไม่ได้แค่เข้ามาเป็นหัวหน้าที่นี่ แต่เธอแบกศักดิ์ศรี และ คำสบประมาท ในความเป็นผู้หญิงของเธอมาด้วย เธอจึงล้มไม่ได้ โดยคำที่เธอใช้เป็นหลักยึดในการทำงาน คือถ้อยคำของสืบ นาคะเสถียร
"ผมคิดว่า ชีวิตผมทำดีที่สุดแล้วเท่าที่ผมมีชีวิตอยู่ ผมคิดว่า ผมได้ช่วยเหลือสังคมดีแล้ว ผมคิดว่า ผมได้ทำตามกำลังของผมดีแล้ว และผมพอใจ ผมภูมิใจสิ่งที่ผมทำ"
สารคดีแสงไฟที่ไม่เคยดับ สืบ นาคะเสถียร