ลุยไม่รู้โรย
ลุยไม่รู้โรย" ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่รายการสำหรับผู้สูงอายุ แต่ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยของการเป็นผู้สูงอายุ และช่วยเสริมพลังการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายของผู้สูงอายุ
วรเกียรติ นิ่มมาก
การกลับมาอีกครั้งของรายการ "ลุยไม่รู้โรย "
จะเป็น " ลุยไม่รู้โรย" ที่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกสนาน สดใส เบิกบาน แต่จะเพิ่มความลึกซึ้ง อิ่มเอม ประทับใจ เพื่อทำให้เป็นเช้าวันหยุดที่มีค่าและความหมายสำหรับผู้สูงวัย
จะเป็น " ลุยไม่รู้โรย" ที่ช่วยเสริมพลังการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายของผู้สูงอายุ ให้มองเห็นคุณ ของการมีชีวิตอยู่ และพร้อมจะก้าวออกมาใช้ชีวิตในฐานะพลเมืองอาวุโสของสังคมได้อย่างสง่างาม
จะเป็น " ลุยไม่รู้โรย" ที่สร้างการมีส่วนร่วมให้กับคนทุกวัยโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงวัยและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
จะเป็น " ลุยไม่รู้โรย" ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่รายการสำหรับผู้สูงอายุ แต่ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยของการเป็นผู้สูงอายุ และ สำหรับลูกหลาน ที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ
ป้าต้อยชาวสวนเปี่ยมสุข
พาลุยสวนผลไม้เมืองนนท์ ที่มีราชาผลไม้อย่าง “ทุเรียน” และมะม่วงพันธุ์โบราณที่หากินได้ยากและออกผลผลิตปีละครั้ง ที่ชื่อ “ยายกล่ำ” โดยมีเจ้าของสวนเป็นคุณป้าวัย 64 ปี ที่ยังมีความสุขกับการได้เห็นผลไม้ที่ปลูกออกดอกออกผล พร้อมเกร็ดความรู้ และภูมิปัญญาในการทำสวนที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
“8 de Klong” คาเฟ่แห่งการเริ่มต้นใหม่หลังเกษียณ
เรื่องราวของ “ลุงโรจน์” วัย 66 ปี ผู้ริเริ่มเปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นร้านกาแฟ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะทำสิ่งที่ตัวเองรักในวัยเกษียณ โดยมี “พลอย” ลูกสาวที่พบเจอกับภาวะหมดไฟจากงานประจำ เข้ามาดูแลร้านจนเติบโตอย่างต่อเนื่อง และที่นี่เองทำให้ครอบครัวลุงโรจน์ได้พบกับ “ลุงแจ้” ชายที่เกษียณจากงานในเมืองใหญ่ กลับบ้านมาทำอาชีพขับเรือท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นเรื่องราวของผู้คนที่ไม่ย่อท้อต่อการเริ่มต้นใหม่ และนำสิ่งที่ตัวเองรักมาต่อยอดเป็นอาชีพที่สร้างคุณค่าให้แก่ตัวเองและสังคม
ชีวิตเกษียณที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ของลุงหมึกแห่งภูผาตาดโฮมสเตย์
กลับมาที่ทองผาภูมิอีกครั้ง เพื่อพบกับ “ลุงหมึก” วัย 73 ปี ชายผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิต จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยโฮมสเตย์ที่สร้างเองหลังเกษียณ วันนี้ชีวิตของลุงหมึกเติบโตขึ้นอีกขั้น กลายเป็นเจ้าของสวนผลไม้กว่า 23 ไร่ ปลูกผลไม้หลากหลายชนิดตลอดทั้งปี และเริ่มต้น “สวนทุเรียนน้ำแร่” แห่งแรกของกาญจนบุรี นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงโฮมสเตย์กับชุมชน โดยรับซื้อสมุนไพรจากชาวบ้านมาทำกิจกรรมอบสมุนไพรให้แขกผู้เข้าพัก เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีคุณค่า และไม่หยุด “เติบโต”
แท็กซี่โบต แห่งท่าน้ำนนท์
พบกับแท็กซี่โบตแห่งท่าน้ำนนท์ วัย 59 ปี เชี่ยวชาญการขับเรือ เป็นวิกิพีเดีย รอบรู้ที่กิน ที่เที่ยวในย่านเมืองนนท์ ทุกวันนี้คนเดินทางด้วยรถยนต์ จึงเหลือคนทำอาชีพขับเรือรับจ้างไม่มาก แต่เสน่ห์ของการนั่งเรือรับจ้างลัดเลาะคูคลอง คือการได้เห็นวิถีชีวิต อาหาร อาชีพ และแหล่งท่องเที่ยวริมคลองที่เรียบง่าย งดงาม ติดตามเรื่องราวได้ในลุยไม่รู้โรย ตอน ลุงเล็ก แท็กซี่โบ๊ทแห่งท่าน้ำนนท์
“บ้านจงรัก” พื้นที่สำหรับเกษียณของพ่อกับลูก
พ่อลูกต่างวัยที่เกษียณพร้อมกันแต่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจในเส้นทางใหม่ของชีวิต “พ่อตุ้ม ศิลป์ชัย” วัย 69 ปี เลือกสานฝันด้วยการสร้างพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ในบ้านเก่าของครอบครัว ที่เต็มไปด้วยของสะสมล้ำค่าและเรื่องราวแห่งความทรงจำของบรรพบุรุษ ส่วน “ฟิล์ม ญานิศา” วัย 41 ปี ลูกสาวที่เกษียณจากงานประจำตั้งแต่อายุ 30 ปี เดินตามฝันเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ที่สะท้อนตัวตนและความรักในงานสร้างสรรค์
“บ้านสวนจันทิตา” โฮมสเตย์ที่ทำมาจากความรัก
เรื่องราวของ “ลุงไพศาล” และ “ป้าจันทิตา” กุศลวัฒนะ คู่รักวัย 70 ปี เจ้าของบ้านสวนจันทิตา โฮมสเตย์ไม้กลางป่าท่ามกลางธรรมชาติในจังหวัดอุทัยธานี หลังจากเกษียณจากการเป็นข้าราชการครู ทั้งสองตัดสินใจสร้างโฮมสเตย์เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนสำหรับตัวเองและแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น
จากข้าราชการสู่เกษตรกรสุขใจ
"ลุงเอก" อดีตข้าราชการวัย 67 ปี ที่เคยไม่มีแผนเกษียณชัดเจน แต่เมื่อถึงวัย 60 ปี ลุงเอกกลับพบว่าการอยู่เฉย ๆ นั้นน่าเบื่อ แถมเงินเก็บที่มีอาจไม่พอใช้ตลอดชีวิต ลุงจึงเริ่มมองหาทางต่อยอด จนตัดสินใจลองปลูกผักกินเอง และเมื่อชาวบ้านให้ความสนใจ ลุงก็เริ่มขายผัก ทั้งที่ไม่เคยค้าขายมาก่อน