ชื่อของ "ซามูไรบลูส์" (SAMURAI BLUE) ผู้นำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวเอเชีย ด้วยผลงานอันลือเลื่องในศึก "ฟุตบอลโลก 2022" หรือ "ฟีฟ่าเวิลด์คัพ" (FIFA World Cup) ทั้งการเอาชนะอดีตแชมป์โลกอย่าง "เยอรมนี" และ "สเปน" คว้า 6 แต้ม ครองแชมป์กลุ่ม E ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้
ถึงแม้ว่า ในท้ายที่สุดของฟุตบอลโลกปีนี้ "ญี่ปุ่น" จะไม่สามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ แต่พวกเขาก็สร้างความภาคภูมิใจให้แฟนลูกหนังชาวเอเชียอยู่ไม่น้อย
เมื่อย้อนไทม์ไลน์ดูตั้งแต่เมื่อครั้งที่ "ญี่ปุ่น" ผ่านเข้ารอบคัดเลือกการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1998 ที่มีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้น ก็มีพัฒนาเรื่อยมา โดยทีมชาติญี่ปุ่นสามารถตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ ปี 2002 ปี 2010 ปี 2018 และ ปี 2022
ติดตามความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลก 2022 กับไทยพีบีเอสได้ที่ www.thaipbs.or.th/Worldcup2022
ชื่อของ "ซามูไรบลูส์" (SAMURAI BLUE) ผู้นำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวเอเชีย ด้วยผลงานอันลือเลื่องในศึก "ฟุตบอลโลก 2022" หรือ "ฟีฟ่าเวิลด์คัพ" (FIFA World Cup) ทั้งการเอาชนะอดีตแชมป์โลกอย่าง "เยอรมนี" และ "สเปน" คว้า 6 แต้ม ครองแชมป์กลุ่ม E ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้
ถึงแม้ว่า ในท้ายที่สุดของฟุตบอลโลกปีนี้ "ญี่ปุ่น" จะไม่สามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ แต่พวกเขาก็สร้างความภาคภูมิใจให้แฟนลูกหนังชาวเอเชียอยู่ไม่น้อย
เมื่อย้อนไทม์ไลน์ดูตั้งแต่เมื่อครั้งที่ "ญี่ปุ่น" ผ่านเข้ารอบคัดเลือกการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1998 ที่มีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้น ก็มีพัฒนาเรื่อยมา โดยทีมชาติญี่ปุ่นสามารถตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ ปี 2002 ปี 2010 ปี 2018 และ ปี 2022
ติดตามความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลก 2022 กับไทยพีบีเอสได้ที่ www.thaipbs.or.th/Worldcup2022