เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 66 มิเชล โหย่ว กลายเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์ 2023 (Oscar 2023) หรือ The 95th Academy Awards ในรอบเกือบ 100 ปี จากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง "ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส" หรือ “Everything Everywhere All at Once” รวมถึง คี ฮุย ควน นักแสดงชายเชื้อสายเวียดนาม และ แดเนียล ควอน ผู้กำกับเชื้อสายจีนก็ได้รับรางวัล สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ครั้งนี้เช่นกัน และในปี 2019 ภาพยนตร์เรื่อง Parasite จากประเทศเกาหลีใต้ ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และอีก 3 รางวัลคือ ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม เพราะก่อนหน้านี้ภาพยนตร์เอเชียมีพื้นที่บนเวทีออสการ์สำหรับสาขาภาพยตร์นานาชาติ (ภาษาต่างประเทศ) ยอดเยี่ยมเท่านั้น เดิมทีในปี 1947 มีสาขาที่ชื่อว่ารางวัลเกียรติยศ โดยภาพยนตร์เอเชียเคยชนะรางวัลนี้ 3 ครั้ง คือ
ก่อนสาขานี้จะเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมในปี 1956 โดยภาพยนตร์เอเชีย เคยชนะรางวัล 6 ครั้ง ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 41 ครั้ง
ภาพยนตร์ที่ชนะรางวัล
ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง
ในส่วนของชาวเอเชียที่อยู่ในสายภาพยนตร์ บางสาขาเคยมีผู้ชนะเพียงครั้งเดียว และบางสาขาก็กว่า 62 ปี ถึงจะมีชาวเอเชียที่ได้รับรางวัลนั้นอีกครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้กำกับยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 5 ครั้ง
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 1 ครั้ง
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 1 ครั้ง
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 2 ครั้ง
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 2 ครั้ง
ตลอด 95 ปี ภาพยนตร์เอเชียที่ได้เข้าชิงมีสัดส่วนน้อยมาก และภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลก็ยิ่งน้อยไปอีก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เวทีออสการ์ดูเหมือนจะเริ่มเปิดพื้นที่ให้ภาพยนตร์เอเชียมากขึ้นแล้ว
ประเทศไทยเคยเสนอชื่อภาพยนตร์ 30 เรื่อง เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม เช่น น้ำพุ (1984), ลุงบุญมีระลึกชาติ (2010), ร่างทรง (2021), One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2022) เป็นต้น แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนได้รับคัดเลือก หันกลับมามองสถานการณ์ปัจจุบันของวงการภาพตร์ไทยแล้วก็รู้สึกเศร้า ในฐานะคนไทยก็อยากจะเห็นภาพยนตร์ไทยได้รางวัลออสการ์สักครั้งในชีวิต เพราะจริง ๆ แล้วภาพยนตร์ไทยดี ๆ ก็มีมากมาย เหลือแต่การสนับสนุนจากภาครัฐให้มันดีขึ้นอีกเท่านั้น
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 66 มิเชล โหย่ว กลายเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์ 2023 (Oscar 2023) หรือ The 95th Academy Awards ในรอบเกือบ 100 ปี จากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง "ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส" หรือ “Everything Everywhere All at Once” รวมถึง คี ฮุย ควน นักแสดงชายเชื้อสายเวียดนาม และ แดเนียล ควอน ผู้กำกับเชื้อสายจีนก็ได้รับรางวัล สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ครั้งนี้เช่นกัน และในปี 2019 ภาพยนตร์เรื่อง Parasite จากประเทศเกาหลีใต้ ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และอีก 3 รางวัลคือ ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม เพราะก่อนหน้านี้ภาพยนตร์เอเชียมีพื้นที่บนเวทีออสการ์สำหรับสาขาภาพยตร์นานาชาติ (ภาษาต่างประเทศ) ยอดเยี่ยมเท่านั้น เดิมทีในปี 1947 มีสาขาที่ชื่อว่ารางวัลเกียรติยศ โดยภาพยนตร์เอเชียเคยชนะรางวัลนี้ 3 ครั้ง คือ
ก่อนสาขานี้จะเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมในปี 1956 โดยภาพยนตร์เอเชีย เคยชนะรางวัล 6 ครั้ง ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 41 ครั้ง
ภาพยนตร์ที่ชนะรางวัล
ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง
ในส่วนของชาวเอเชียที่อยู่ในสายภาพยนตร์ บางสาขาเคยมีผู้ชนะเพียงครั้งเดียว และบางสาขาก็กว่า 62 ปี ถึงจะมีชาวเอเชียที่ได้รับรางวัลนั้นอีกครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้กำกับยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 5 ครั้ง
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 1 ครั้ง
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 1 ครั้ง
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 2 ครั้ง
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล 2 ครั้ง
ตลอด 95 ปี ภาพยนตร์เอเชียที่ได้เข้าชิงมีสัดส่วนน้อยมาก และภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลก็ยิ่งน้อยไปอีก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เวทีออสการ์ดูเหมือนจะเริ่มเปิดพื้นที่ให้ภาพยนตร์เอเชียมากขึ้นแล้ว
ประเทศไทยเคยเสนอชื่อภาพยนตร์ 30 เรื่อง เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม เช่น น้ำพุ (1984), ลุงบุญมีระลึกชาติ (2010), ร่างทรง (2021), One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2022) เป็นต้น แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนได้รับคัดเลือก หันกลับมามองสถานการณ์ปัจจุบันของวงการภาพตร์ไทยแล้วก็รู้สึกเศร้า ในฐานะคนไทยก็อยากจะเห็นภาพยนตร์ไทยได้รางวัลออสการ์สักครั้งในชีวิต เพราะจริง ๆ แล้วภาพยนตร์ไทยดี ๆ ก็มีมากมาย เหลือแต่การสนับสนุนจากภาครัฐให้มันดีขึ้นอีกเท่านั้น