จากปัญหา "ทุเรียน" สุกงอมคาต้น แต่ถูกนำไปแปรรูปได้แค่ "ทุเรียนกวน" นำมาสู่การแก้ปัญหาด้วยการแปรรูปทุเรียนเป็นกาแฟ สร้างความแปลกใหม่ แบบ 2 in 1 ได้ทั้งรสชาติกาแฟ และกลิ่นของทุเรียน แถมยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทุเรียนได้ด้วย
ผลงาน "กาแฟหมอนทอง" COFFEARIAN เมนูสุดแปลกจาก นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยองฯ ที่เห็นปัญหาจนนำมาสู่ไอเดียต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีในชุมชน
"ธีรภัทร์ ชุ่มชื่น" และ "ปัณณวัฒน์ แซ่แต้" นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยองฯ เล่าถึงที่มาที่ไปของ "กาแฟหมอนทอง" ว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออก ที่มีการทำสวนทุเรียนมากที่สุด ซึ่งปัญหาที่ชาวสวนทุเรียนพบมากในจังหวัดระยอง คือ จะมีทุเรียนที่สุกงอมคาต้น หรือบางครั้งจะมีทุเรียนที่ตกลงมาจากต้น ทำให้เนื้อทุเรียนเละ เกษตรกรมักจะนำทุเรียนที่มีเนื้อเละไปแปรรูป อาจจะเป็นทุเรียนกวน
"ทุเรียนกวน เขาทำมาเยอะแล้วครับ พวกผมอยากจะลองแปรรูปเป็นอย่างอื่นดู ก็เลยแปรรูปมาเป็นกาแฟทุเรียน กลิ่นหมอนทองครับ โดยการเอามาหมักเข้ากับเมล็ดกาแฟ เป็นกาแฟที่มีกลิ่นของทุเรียนหมอนทอง" สองหนุ่มเล่าย้อนไปถึงแนวคิด
สำหรับกระบวนการทำนั้น ทั้งคู่เล่าให้ฟังว่า กระบวนการจะเริ่มจากการคัดเมล็ดกาแฟ โดยการใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า เริ่มแรกจะนำเมล็ดกาแฟไปแช่น้ำ เลือกใช้เฉพาะเมล็ดกาแฟที่จม ส่วนเมล็ดกาแฟที่ลอยขึ้นจะคัดออก เพราะว่าใช้ไม่ได้
จากนั้นจะไปเตรียมเนื้อทุเรียนโดยใช้เนื้อทุเรียนนำไปปั่นกับน้ำให้เข้ากัน แล้วก็นำเมล็ดกาแฟไปหมัก กับทุเรียนที่นำไปปั่น เมล็ดกาแฟจะดูดน้ำที่ผสมกับทุเรียนทำให้เมล็ดกาแฟบวมขึ้น โดยจะหมักทั้งหมด 6 วัน หลังจากนั้นก็นำเมล็ดกาแฟไปตากแดด การตากแดดจะทำให้น้ำที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ ค่อย ๆ ไหลออกมา แต่ว่ากลิ่นของทุเรียนก็ยังจะคงติดอยู่ในเมล็ดของกาแฟ
ขั้นตอนต่อมา จะนำเมล็ดกาแฟที่ตากจนแห้งเสร็จแล้ว ไปคั่วไฟกลาง เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็จะเห็นว่ากาแฟที่คั่วเริ่มมีกลิ่นทุเรียนติดอยู่
"รสชาติของกาแฟ หลังจากชง จะมีรสชาติหวานกว่ากาแฟทั่วไป เนื่องจากนำไปหมักกับทุเรียน ซึ่งทุเรียนก็มีรสชาติค่อนข้างหวานอยู่แล้ว ทำให้กาแฟของเรามีรสชาติที่อมหวานเล็ก ๆ ครับผม"
ธีรภัทร์ และปัณณวัฒน์ ระบุถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเน้นไปที่ความแปลกใหม่ และเป็นแบบ 2 in 1 สำหรับคอกาแฟ และผู้ที่ชื่นชอบทุเรียน สามารถลิ้มรสสัมผัสกาแฟ และมีกลิ่นของทุเรียน เข้ามาด้วย
ส่วนผู้ที่ไม่ชอบทุเรียน ทั้งคู่มองว่าสามารถดื่มกาแฟหมอนทองได้ หลังจากได้ทดลองไปให้อาจารย์ที่ไม่ชอบทุเรียนลองดื่มดูพบว่า สามารถดื่มได้ปกติ และไม่ได้มีกลิ่นรุนแรงมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปทางให้รสชาติกาแฟเป็นหลักอยู่แล้ว แต่จะมีกลิ่นทุเรียนตามหลังมาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แม้แต่ว่าคนที่ไม่กินทุเรียนก็สามารถลองเปิดใจได้ เป็นผลิตภัณฑ์หรือเป็นแนวทางใหม่ ๆ ให้เลือกบริโภค
ที่ผ่านมาได้นำไปลองวางจำหน่ายที่ร้านกาแฟบ้างแล้ว โดยจะนำเมล็ดกาแฟทุเรียนไปทำเป็นเมนูอเมริกาโน และลาเต้ ซึ่งตัวลาเต้จะให้กลิ่นของทุเรียนโดดเด่นมากขึ้น เพราะว่าใส่นมชูกลิ่นของทุเรียนมากยิ่งขึ้น ส่วน Feedback ก็พบว่าลูกค้าบางคนบอกว่าดูแปลกใหม่ดี แม้ไม่ได้ชอบกินทุเรียนขนาดนั้น แต่ว่าดื่มง่ายดี และก็มีลูกค้าบางส่วนให้คำแนะนำมาปรับแก้ ปรับใช้
สำหรับแผนในอนาคต สองหนุ่มตั้งใจว่า อาจจะเปลี่ยนสายพันธุ์ของทุเรียน อาจจะไม่ได้ใช้พันธุ์หมอนทอง อาจจะเปลี่ยนเป็นพันธุ์ชะนี ก้านยาว และพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอีก ส่วนผลิตภัณฑ์กาแฟหมอนทองขณะนี้ ในอนาคตอาจจะมีการวางจำหน่ายตามร้านกาแฟทั่วไป
ที่น่าทึ่งก็คือ พวกเขาใช้เวลาทดลองทั้งหมด 2 ปี กว่าจะกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟทุเรียนหมอนทองนี้ โดย 1 ซอง ชงได้ 3 แก้ว ในราคาซองละ 100 กว่าบาทเท่านั้น ถ้าใครสนใจอยากจะลองชิมสามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยองฯ ได้เลย.
STORY : Thai PBS Sci & Tech
PHOTO - EDITOR : วงศกานต์ จิรัฐิติกานต์
อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติม
โดรนคนไทย..ไม่ธรรมดา “สำรวจป่า สร้างแผนที่ 3 มิติ”
Happy Pill Dispenser เครื่องจ่ายยาอัตโนมัติ ไอเดียจากตู้กาชาปอง
Magic Flexi ถาดอาหารยืดหด เชื่อมต่อถาดของเพื่อนได้
"OxyRock" วัสดุตกแต่งประกายวิบวับ จากเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้ง
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech