ทราบกันดีว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น มักได้รับความสนใจ “น้อยกว่า” การเลือกตั้งระดับชาติ อาทิ การเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (สส.) ทว่าในมุมกลับกัน สนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น กลับได้รับความสนใจต่อเหล่าบรรดาพรรคการเมือง ตลอดจนนักการเมืองมืออาชีพ จนต้องลงมา “หาเสียง” หรือช่วยผู้สมัครในพื้นที่หาเสียง เพื่อให้ได้มาซึ่ง “เก้าอี้” ในสนามการเมืองท้องถิ่น

เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้นักการเมืองสนามใหญ่ ให้ความสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เป็นการเก็บเสียงประชาชนไว้เป็นฐานคะแนน เพราะจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หลายครั้งที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า การจะได้มาซึ่งคะแนนของพรรคการเมือง มีอยู่ 2 ปัจจัย คือ ฐานเสียง และ กระแส

ดังนั้น สิ่งที่ต้องสร้างและสั่งสมไว้คือ ฐานเสียง และฐานเสียงที่สำคัญก็คือ ฐานเสียงจากท้องถิ่น ที่ต้องรักษาไว้ให้ยาวนาน

การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างฐานเสียงให้กับพรรคการเมือง โดยเฉพาะเมื่อชนะเลือกตั้งเข้าไปแล้ว ต้องทำงานเชิงพัฒนา สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องจนเกิดความพึงพอใจ ซึ่งจะส่งผลต่อไปถึงสนามการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติ

หากพรรคการเมืองไหนสามารถยึดครองการเมืองระดับท้องถิ่น อาทิ สนาม อบจ. ได้ จะมีความได้เปรียบที่จะใช้ทรัพยากรของ อบจ. รวมทั้งสร้างเครือข่ายทางการเมืองในระดับจังหวัด ทั้งระดับ อบต. เทศบาล และหน่วยงานอื่น ๆ

เรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือการเมืองท้องถิ่น ผูกพันกับ “บ้านใหญ่” หรือครอบครัวการเมืองในท้องถิ่น ดังนั้น บรรดานักเลือกตั้งระดับชาติ จะอาศัยฐานตลาดทางการเมืองนี้ เชื่อมโยงสร้างเครือข่าย เพื่อให้บรรดาบ้านใหญ่ในท้องถิ่นนั้น ๆ มาเป็นพันธมิตรสำคัญ สร้างฐานเสียงไว้ในสนามเลือกตั้งระดับชาติต่อไป

ในสนามเลือกตั้งใหญ่ พรรคอย่างเดียวไม่พอ นโยบายอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเครือข่ายบ้านใหญ่ประจำจังหวัดเข้าร่วมในพรรคด้วย เป็นหลักประกันว่า พรรคจะมีโอกาสชนะในการเลือกตั้งระดับชาติ ทั้งหมดจึงทำให้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นอย่าง อบจ. ถูกมองว่ามีความสัมพันธ์กับแนวโน้มการเลือกตั้งระดับประเทศนั่นเอง

ติดตามข่าวและเช็กผลคะแนนเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ ทางเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/localelection

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

ทำไมนักการเมืองสนามเลือกตั้งใหญ่ ถึงสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่น ?