นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (University of New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย ได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถตรวจสอบคุณภาพนมได้แบบเรียลไทม์

การตรวจสอบคุณภาพนมด้วยแอปพลิเคชัน จะใช้การสั่นสะเทือนที่แม่นยำโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ แอปฯ นี้ใช้การสั่นของมอเตอร์เพื่อทดสอบลักษณะความหนืดของนม ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ว่านมยังคงอยู่ในสภาพดีหรือเริ่มบูดแล้ว เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดขยะจากอาหาร ทำให้ไม่ต้องทิ้งนมโดยไม่จำเป็น

นักวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงของความหนืดสามารถบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพนม เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปนมจะมีการสะสมของแบคทีเรียซึ่งทำให้นมมีความหนืดมากขึ้น โดยสมาร์ตโฟนจะสร้างการสั่นที่ควบคุมได้ และตรวจสอบผลที่ได้เพื่อวิเคราะห์คุณภาพนมในระดับเบื้องต้น ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในความสดของนมก่อนบริโภค

แอปพลิเคชันนี้พัฒนาขึ้นโดยกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) ร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันอื่น ๆ โดยเทคโนโลยีนี้ยังช่วยตอบสนองต่อปัญหาที่ผู้บริโภคมักมีการทิ้งอาหารเนื่องจากความไม่แน่ใจในคุณภาพ การพัฒนาแอปพลิเคชันนี้จึงเป็นการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยลดขยะจากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักวิจัยชี้ว่าแอปฯ นี้สามารถพัฒนาให้รองรับผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ที่ต้องการตรวจสอบความสดของอาหารในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ การลดปริมาณของเสียจากอาหารยังมีส่วนสำคัญในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะโลกร้อน

อีกข้อดีหนึ่งของแอปพลิเคชันนี้ คือ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพียงแต่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้วทดสอบได้ทันทีผ่านสมาร์ตโฟน การใช้เทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินจากการซื้ออาหารที่เสื่อมคุณภาพโดยไม่จำเป็น และเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

แม้ว่าแอปพลิเคชันจะยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา แต่นักวิจัยคาดหวังว่าในอนาคตแอปพลิเคชันนี้จะได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยลดปัญหาการทิ้งอาหารและสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันยังคาดหวังว่าแอปพลิเคชันจะถูกพัฒนาให้รองรับการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อีกหลากหลายประเภท

เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร

ที่มาข้อมูล: unsw, newatlas, delicious
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

แอปฯ เช็กนมบูดด้วยสมาร์ตโฟน ใช้การสั่นสะเทือนทดสอบความหนืด