เวลาเรากินสเต๊กเราสามารถเลือกระดับความสุกได้ อย่างเช่น Rare (แรร์ : ระดับความสุกแค่ด้านนอก เนื้อด้านนอกพอสุก เนื้อด้านในยังดิบเป็นสีแดงซึ่งมีหลายระดับ) แต่ทำไมพอเป็นไก่กลับเลือกระดับความสุกแบบ Rare เหมือนเนื้อไม่ได้กันนะ Thai PBS Sci & Tech หาคำตอบมาให้แล้ว
เหตุผลก็คือ มีความเสี่ยงเกิด “อาหารเป็นพิษ” สูง โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) อธิบายในเรื่องนี้ว่า เมื่อปรุงสุกแล้ว “ไก่” ก็ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ “ไก่ดิบ” อาจปนเปื้อนเชื้อโรคหรือแบคทีเรียได้ เช่น แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter), ซาลโมเนลลา (Salmonella) หรือ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium perfringens) หากเรารับประทานไก่ที่ปรุงไม่สุก อาจเกิดอาการเจ็บป่วยจากอาหารหรือที่เรียกว่าอาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ เรายังอาจป่วยได้หากรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ปนเปื้อนไก่ดิบหรือน้ำไก่ดิบ
โดยเหตุผลที่เราสามารถรับประทานสเต๊กเนื้อแบบ Rare ได้ เนื่องจากสเต๊กเนื้อเป็นส่วนเนื้อส่วนเดียวซึ่งหมายความว่าแบคทีเรียที่พบระหว่างการฆ่าหรือการจัดการเพิ่มเติมนั้นโดยทั่วไปจะจำกัดอยู่แค่บริเวณภายนอกของเนื้อเท่านั้น ซึ่งวิธีฆ่าแบคทีเรียหรือเชื้อโรคสามารถทำได้โดยการย่างด้านนอกให้สุก ก็ทำให้เนื้อสเต๊กโดยรวมยังคงปลอดภัยสำหรับการรับประทานนั่นเอง
ขณะที่ “ไก่” มีเนื้อเป็นชิ้นใหญ่ๆ เช่นกัน แต่มีโครงสร้างพรุนมากกว่า “เนื้อวัว” ซึ่งหมายความว่าเชื้อโรคสามารถเข้าไปลึกกว่าในเนื้อวัวได้ ดังนั้นหากต้องการให้มั่นใจว่า “เนื้อไก่” จะปลอดภัยสำหรับการรับประทาน เราต้องปรุงให้สุกทั่วถึง ซึ่งหมายความว่าเบอร์เกอร์ไก่แบบมีเดียม แรร์ (Medium Rare) อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบอาการ “ท้องเสีย”
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : iflscience
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech