Helios Airways เที่ยวบินที่ 522 เป็นเที่ยวบินพาณิชย์ที่ออกเดินทางเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2005 ขึ้นบินจากประเทศไซปรัสไปยังสาธารณรัฐเช็ก แต่แวะพักระหว่างทางที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ระหว่างเที่ยวบิน เครื่องบินลำดังกล่าวได้ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบิน ก่อนที่เครื่องจะตกลงในกรีซในเวลาต่อมา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารทั้งหมดรวมลูกเรือ 121 คน เสียชีวิต
ในเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเกิดจากการที่ห้องโดยสารไม่ได้รับการอัดแรงดันอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรวมถึงลูกเรือและนักบินขาดออกซิเจนจนหมดสติ
เครื่องบินในเที่ยวบินที่ 522 นั้นคือเครื่องบิน Boeing 737-31S ซึ่งผลิตมาในปี 1998 กัปตันและผู้ช่วยนักบินมีประสบการณ์สูง เที่ยวบินที่ 522 ออกจากกรุงลอนดอนสู่ไซปรัสในตอนเช้า โดยที่ลูกเรือชุดระหว่างกรุงลอนดอนถึงไซปรัสรายงานว่าซีลระหว่างประตูเกิดการแข็งตัวขึ้นจากความเย็น รวมถึงประตูมีเสียงแปลก ๆ จึงได้มีการให้ฝ่ายบำรุงรักษามาตรวจสอบ
ฝ่ายบำรุงรักษาได้มาตรวจสอบโดยได้เปลี่ยนการตั้งค่าการอัดอากาศ หรือ “Pressurization” เป็นแบบควบคุมด้วยมือ (Manual) จากเดิมที่ถูกตั้งไว้ที่อัตโนมัติ (Auto) โดยการเปลี่ยนเป็นควบคุมด้วยมือทำให้วิศวกรสามารถตั้งค่าแรงดันภายในห้องโดยสารได้ด้วยตนเองเพื่อทดสอบระบบซีล อย่างไรก็ตามหลังจากการซ่อมบำรุงดังกล่าว วิศวกรไม่ได้ปรับการตั้งค่ากลับเป็นอัตโนมัติ
นักบินชุดใหม่สำหรับเที่ยวบินจากไซปรัสไปยังสาธารณรัฐเช็กไม่ได้ตรวจสอบว่าการตั้งค่าการอัดอากาศนั้นเป็นระบบปรับด้วยมืออยู่ ลูกเรือพลาดการตรวจสอบการตั้งค่าดังกล่าวถึง 3 ครั้ง ตาม Checklist ตั้งแต่ Checklist ก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์, Checklist หลังสตาร์ตเครื่องยนต์ และ Checklist หลังขึ้นบิน
ดังนั้นหลังจากการขึ้นบินและการไต่ระดับ แรงดันภายในห้องโดยสารก็ค่อยลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการอัดแรงดันไม่ได้ถูกตั้งเป็นอัตโนมัติ จนเมื่อเครื่องบินผ่านระดับความสูง 12,040 ฟุตไป เสียงเตือนความดันภายในห้องโดยสารจึงดังขึ้น
อย่างไรก็ตาม เสียงเตือนความดันห้องโดยสาร (Cabin Altitude Warning) นั้นมีความคล้ายคลึงกับเสียงเตือนการตั้งค่าการขึ้นบินไม่ถูกต้อง (Take-off Configuration Warning) ซึ่งจะดังเมื่ออยู่บนพื้นเท่านั้น ทำให้นักบินสับสนและตีความหมายเสียงเตือนไม่ถูก จึงได้ติดต่อทีมวิศวกรภาคพื้นเพื่อวิเคราะห์ปัญหา
ในขณะเดียวกัน เครื่องบินก็ยังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนความดันห้องโดยสารลดลงถึงขีดอันตราย ซึ่งคือจุดที่ความหนาแน่นของอากาศนั้นไม่เพียงพอสำหรับการหายใจโดยมนุษย์ โดยหากอยู่ในจุดนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง มนุษย์จะเริ่มสูญเสียสติสัมปชัญญะจากภาวะขาดออกซิเจน (Hypoxia) และหมดสติในที่สุด
ในกรณีของเที่ยวบิน 522 นั้น ทางทีมวิศวกรภาคพื้นได้แนะนำให้ลูกเรือตรวจสอบการตั้งค่าการอัดแรงดันห้องโดยสาร แต่ลูกเรือทุกคนนั้นเริ่มขาดสติสัมปชัญญะจากภาวะขาดออกซิเจน และได้ถามทางทีมวิศวกรคำถามแบบเดิมและย้ำคำถาม ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของการขาดออกซิเจน ก่อนที่ลูกเรือจะขาดการติดต่อในที่สุด
เที่ยวบิน 522 ไต่ระดับไปที่ความสูง 34,000 ฟุต และบินไปยังกรีซภายใต้การควบคุมของระบบ Autopilot โดยไม่มีการติดต่อกับหอควบคุมการบิน ต่อมา เที่ยวบิน 522 บินไปถึงกรีซและบินวนเหนือกรุงเอเธนส์ด้วยการควบคุมของระบบ Autopilot เป็นเวลากว่า 70 นาที ก่อนที่ทางกองทัพอากาศของกรีซจะตัดสินใจส่งเครื่องบินรบขึ้นมาตรวจสอบ จนพบว่าผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนสลบ
อย่างไรก็ตาม นักบินเครื่องขับไล่พบว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้องนักบิน โดยจากการตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่กำลังพยายามควบคุมเครื่องบินอยู่ โดยพนักงานคนดังกล่าวยังมีสติอยู่ได้จากการใช้ถังออกซิเจนแบบพกพาบนเครื่องบิน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เที่ยวบิน 522 ก็เชื้อเพลิงหมด จนตกลงในเขตภูเขาบริเวณกรีซ
เหตุการณ์นี้ทำให้มีการบังคับให้ Boeing นั้นติดตั้งสัญญาณไฟในห้องนักบินเพิ่ม เพื่อให้การเตือนแรงดันในห้องโดยสารนั้นชัดเจนและแยกแยะได้จากไฟเตือนอื่น ๆ
เรียบเรียงโดย โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech