สมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยชื่อ 3 คนที่จะส่งลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอล ประกอบด้วย นายองอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก นายวิมล กาญจนะ ประธานลีกภูิภาคและนายชาญวิทย์ ผลชีวิน ซึ่งชื่อของ "โค้ชหรั่ง" นับว่ามีเสียงตอบรับที่ดีต่อคนในวงการฟุตบอลพอสมควร และเขาประกาศว่าพร้อมที่จะเข้ามาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลหากได้รับโอกาสจากสโมสรสมาชิกทั้ง 72 เสียง
โค้ชชาญวิทย์เปิดเผยว่าหากเขาได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ เขามีนโยบายจะพัฒนาทีมชาติเข้าสู่ชั้นนำของเอเชีย สร้างความโปร่งใสตรวจสอบได้ในการบริหารงาน และที่สำคัญที่จะเป็นนโยบายแรกหากได้รับเลือกเข้าไปทำงาน การลดความขัดแย้งเชิญทุกส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน
"ถ้ามีโอกาสเข้ามาจริงๆ โจทย์แรก คือ ลดความขัดแย้งให้ได้ คดีที่ฟ้องร้องกันอยู่ต่างๆ ผมเชื่อว่าผมเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยได้ ผมมั่นใจในความรู้ความสามารถและความที่เราเป็นคนกีฬา คนฟุตบอลมาด้วยกัน ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากเลว มีแต่คนอยากทำดี และบางครั้งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อให้เกียรติกันแล้ว พูดคุยกันแล้ว ทำตามกติกาแล้ว ผมว่าทุกคนหันหน้าเข้ามาช่วยวงการฟุตบอลได้" โค้ชชาญวิทย์กล่าว
"ปัญหาที่แก้ไม่ได้เพราะมันอยู่ใต้โต๊ะ ทุกคนต่างไม่พูดความจริงกัน เราจะแก้ความขัดแย้งได้ด้วยการเอาความจริงมาพูด คู่ขัดแย้งกันต้องเปิดอกคุยกัน นี่คือวงการกีฬา ไม่ใช่วงการการเมือง หันหน้าเข้าหากันเถอะครับ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกันต่อไป"
ในส่วนของปัญหาเรื่องผู้ตัดสิน โค้ชชาญวิทย์กล่วว่า เขาตั้งใจจะสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ตัดสินเป็นที่ยอมรับของสังคม รวมถึงต้องพัฒนาอย่างจริงจังด้วย โดยจัดให้หน่วยงานที่ดูแลผู้ตัดสินเป็นองค์กรอิสระแต่ขึ้นกับสมาคมฟุตบอลฯ
เขากล่าวด้วยว่า หากได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ จริงก็ไม่หนักใจกับการทำงานในตำแหน่งนี้เพราะ "ทั้งชีวิตอยู่กับฟุตบอลมาตลอด"
โค้ชชาญวิทย์เคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ หลังจากนั้นเปลี่ยนบทบาทเป็นโค้ชคุมทีมกสิกรไทยคว้าแชมป์เอเชีย 2 สมัย พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ คุมทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายเยาวชน 17 ปีชิงแชมป์โลก คุมทีมชาติไทยชุดฟุตบอลโลก และเป็น 1 ในคณะทำงานก่อตั้งฟุตบอลอาชีพของไทยทั้งไทยพรีเมียร์ลีก และลีกภูมิภาค